“ชูวิทย์” เดือด หลัง สธ.บุกตรวจร้านกัญชาในโรงแรม มองถูกกลั่นแกล้งหลังปูดปมเงินทอนรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“ชูวิทย์” เดือด หลัง จนท.สธ.บุกตรวจร้านกัญชาในโรงแรม มองถูกกลั่นแกล้งหลังปูดปมเงินทอนรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 หมื่นล้านและพูดถึงเรื่องโทษของกัญชา

วันนี้ (27 ก.พ.65) ที่โรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ซ.สุขุมวิท24 เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้ามาตรวจค้นร้านกัญชาภายในโรงแรมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายชูวิทย์ ถึงกับอารมณ์เดือดแล้วเข้าไปสอบถามเหตุผลทันที ว่าทำไมถึงเพิ่งเข้ามาตรวจค้นหลังจากที่ตนพูดเรื่องกัญชา พร้อมกับยืนยันว่า ร้านที่เช่าพื้นที่ได้รับใบอนุญาตให้เปิดตามกฎหมาย และถามเจ้าหน้าที่ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยสั่งให้มาตรวจสอบหรือไม่ และจะบอกให้ว่าคนอยู่เบื้องหลังอนุทินคือนายเนวิน ชิดชอบ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตอบกลับว่าไม่มีความเห็นเรื่องนี้ มาเพราะทำตามหน้าที่ จากนั้นนายชูวิทย์ได้เปิดภาพหน้าอนุทินและหน้านายเนวิน ว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ และปลูกกัญชาที่บุรีรัมย์เป็นแสนๆ ไร่ และบอกอีกว่าคนที่ได้ผลประโยชน์ไม่ใช่ใคร แต่คือคนในรูป

จากนั้นนายชูวิทย์ออกอาการหัวเสียเดินไปกวาดสินค้ากัญชาต่างๆ ที่วางบนเคาเตอร์ปัดลงกับพื้นแล้วเหยียบโชว์ด้วยความโกรธว่าโดนกลั่นแกล้งหลังเปิดโปงการคอรัปชันเรื่องรถไฟสายสีส้ม

ปมเงินทอน 3 หมื่นล้านบาท และพอพูดถึงเรื่องกัญชา ก็ได้ส่งคนมาตรวจสอบร้านทันที พร้อมยืนยันว่า จะพูดเรื่องโทษของกัญชาต่อไป และหากจะหาเรื่องเพิ่อมาปิดโรงแรมก็ทำไป ส่วนใครที่ได้ผลประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีส้มก็ขอให้ฉิบหายไป  จากนั้นได้ถุยน้ำลายใส่รูปภาพนายศักดิ์สยามและนายเนวิน

นายชูวิทย์ ยังย้ำว่าไม่เคยกลัวทุกเรื่องที่ตนเองออกมาเปิดเผยล้วนเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ไม่ใครกล้ามาเปิดหน้า ชีวิตผ่านคุกตารางมาแล้วหลายรอบไม่กลัวชนกับใคร ยืนยันไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้เพื่อมาถล่มพรรคภูมิใจไทย ขออย่าโยงกับเรื่องการเมืองการเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่ทำคือการทักท้วงผลกระทบ โทษของกัญชาที่มอมเมาเยาวชน แต่พรรคภูมิใจไทยกลับพูดถึงประโยชน์ ถ้ามีประโยชน์จริงทำไม พ.ร.บ.ถึงตีตกจากสภาเป็นแค่กฎกระทรวง


นายชูวิทย์ยังท้านายอนุทินอีกว่า จะเปิดโปงเรื่องไหนให้ทำเลย เพราะตนไม่ได้มีผลประโยชน์กับใคร และชี้แจงว่าร้านดังกล่าวเพิ่งมาเช่าเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ประมาณ 4 เดือน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจก็เพิ่งมีวันนี้ที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ตอนเช้า พอบ่ายก็ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจทันที หรือนายอนุทินถนัดใช้อำนาจการเมืองกลั่นแกล้งคนอื่น


ส่วนที่นายอนุทินบอกว่า ตนเองโทรหานายชูวิทย์เพื่อนัดทานข้าวนั้น ยืนยันไม่เคยโทรหามีอแต่นายอนุทินโทรมานัดทานข้าว เพื่อกล่อมให้ตนช่วยสนับสนุนคะแนนเสียงในกรุงเทพ พร้อมกับเสนอเงินให้อีก 50 ล้านบาท แต่ตนไม่ได้รับปากไป แต่นายอนุทินกับไปบิดเบือนบอกสื่อว่าตนโทรไปหา


นายชูวิทย์ยังฝากทิ้งท้ายว่า หากยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชนและคนที่เห็นต่าง แต่มาขู่คนอย่างชูวิทย์ไม่ได้ ยืนยันจะไม่หยุดเปิดโปงเรื่องคอรัปชันและกัญชาเป็นซีรี่ส์ต่อไป ย้ำตนไม่กลัวตายชีวิตทุกวันเหมือนแขวนบนเส้นด้ายสักวันตนเองก็ลงโลง

จากนั้นนายชูวิทย์เดินไปเล่นเปียโนฝากถึงนายอนุทินให้รู้ผ่อนคลายอย่าหมกมุ่นแต่กับการเมือง

ขณะที่นายโบ้ เจ้าของร้านคาเฟ่ กัญชาที่เข้ามาเช่าพื้นที่ของนายชูวิทย์ ระบุว่าตนเองเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านคาเฟ่กัญชา โดยเช่าเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งร้านตนเองมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบมาก่อน มีวันนี้ที่เข้ามาตรวจโดยเข้ามาขอดูใบอนุญาตกับตนเอง ซึ่งก็ได้แสดงไปแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งอะไรก่อนจะกลับไป ยืนยันว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านของตนเองไม่ใช่ของนายชูวิทย์ มีสัญญาเช่าถูกต้องหมด ส่วนที่นายชูวิทย์บอกว่ามีเด็กเยาวชนเข้ามาใช้บริการ ยืนยันว่าถ้าตนเองอยู่ที่ร้นจะไม่อนุญาตให้เด็กใช้บริการ ตามกฏของกระทรวง แต่ถ้าวันที่ตนเองไม่ได้เข้าร้านตนเองไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้หากผิดก็พร้อมจะปิดร้านทันที