มาจากไหน?! ชาวบ้านร้องกำแพงขวางถนน สร้างแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ถามหากเจ็บป่วยฉุกเฉินจะทำอย่างไร หวั่นลำบากทางเข้า-ออก

ชาวบ้านร้องขอความเห็นใจ ตื่นเช้าพบกำแพงขวางถนน เผย มีทั้งคนชรา เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียง หากเจ็บป่วยฉุกเฉินจะเข้า-ออกกันอย่างไร วอนผ่านสื่อถึงผู้มีอำนาจช่วยด้วย

วันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง ชาวบ้านกลุ่มใหญ่กว่าร้อยคน รวมตัวเข้าไปมุงดูกำแพงปูน ที่ก่อสร้างขวางทางเข้าออกชุมชนอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่มีการแจ้งบอกให้รู้ล่วงหน้า ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เรื่องการสัญจรเข้าออก เป็นอย่างมาก

หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน หมู่ที่ 1 ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ไปถึงพบป้ายปักอยู่หัวมุมหน้าทางเข้า ระบุข้อความ” ถนนส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ” ระยะทางจากป้ายฯ เข้าไปด้านในซอย 500 เมตร (เป็นของนายทุนใหญ่เจ้าหนึ่งและเป็นผู้ก่อสร้างกำแพง) พบกำแพงสูงประมาณ 2 เมตร ยาวปิดล้นขอบถนน พร้อมมีชาวบ้านจำนวนมาก มุงดูและวิพากษ์วิจารณ์ ผู้ที่ก่อสร้างกำแพงไปต่าง ๆ นา ๆ อย่างมีอารมณ์ โดยส่วนใหญ่พูดไปในทางเดียวกันว่า ก่อสร้างกำแพงกะทันหัน ไม่มีการบอกกล่าวให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนได้รู้ตัวก่อน คนที่มีรถฯทุกชนิด จึงไม่สามารถขับออกได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะคนชรา ที่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ตามนัดหมาย รวมถึงเด็กเล็กที่ต้องไปโรงเรียน และที่สำคัญที่สุด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน มีคนเจ็บป่วย รถของโรงพยาบาลหรือหน่วยกู้ชีพฯ จะเข้าไปช่วยได้อย่างไร ต้องปล่อยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านในตายก่อนอย่างนั้นหรือ จึงฝากผ่านสื่อฯ ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของกำแพง ขอให้ช่วยเปิดทางเข้าออกให้กับชาวบ้านด้วย

นายประโยชน์ ทายาทผู้อุทิศที่ดินฯ กล่าวว่า ครอบครัวของตน ได้มีการอุทิศที่ดินหน้ากว้างตั้งแต่ 5-7 เมตร ยาวตลอดไปสุดเขตที่ดิน ให้กับ อบต.หอมศีล เอาไปใช้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 และหลังจากยกให้แล้วในสมัยนายกฯคนเก่า อบต.หอมศีล มีการใช้งบประมาณมาทำการปรับปรุงถนน สร้างท่อระบายน้ำ 2 ครั้ง รวมงบที่ใช้จ่ายไปประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ดังนั้นจึงทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า เส้นทางนี้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ ที่สามารถใช้สัญจรเข้าออกได้อย่างอิสระ แต่จู่ ๆ มีการก่อสร้างกำแพงขวางทางอย่างที่เห็น ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในทั้งเด็กเล็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก พร้อมฝากทิ้งท้ายถึงผู้ที่ก่อสร้างกำแพง ช่วยรื้อถอนเปิดทางให้กับชาวบ้านด้วย ขอให้เห็นใจกัน “ สักวันหนึ่ง ท่านก็ต้องแก่ชราลง ถ้าหากเจ็บป่วย แล้วรถไม่สามารถรับไปส่งโรงพยาบาลได้ ท่านจะรู้สึกอย่างไร ”

ส่วนชาวบ้านอีกราย และเคยเป็นอดีตสมาชิก อบต. ฯ กล่าวยืนยันในสิ่งที่นายประโยชน์ ฯ พูด

จากนั้น คณะทำงานของ อ.บางปะกง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อบต.หอมศีล ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกำแพงเจ้าปัญหา มีการสอบถามกับชาวบ้านเรื่องของการใช้เส้นทางสัญจรเข้าออก ซึ่งชาวบ้านแจ้งว่าใช้กันมานานหลายสิบปี เมื่อทำกำแพงปิดกั้นทางแบบนี้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเป็นทางเดียวที่เข้าออกชุมชนได้

น.ส.กมลชญา นายอำเภอบางปะกง หลังจากเดินสำรวจกำแพงเจ้าปัญหาแล้วได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กล่าวว่า ได้สั่งการให้ อบต.หอมศีล ทำเอกสารระบุถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ นำเสนอขอความเมตตาจากศาลฯ พิจารณาสั่งให้รื้อถอนฯ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนก่อน จากนั้น ให้ประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดิน และกรมเจ้าท่า มาทำรังวัดแนวเขตเส้นทางให้ชัดเจน อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วน นางนิตยา นายก อบต.หอมศีล กล่าวว่า ตอนนี้ ให้เจ้าหน้าที่เร่งทำเอกสารฯ ยื่นต่อศาลฯ ขอความเมตตา พิจารณาสั่งให้รื้อถอนกำแพงออกก่อน เพื่อคลายความเดือดร้อนของชาวบ้าน หลังจากนั้น จะดำเนินการตามขั้นตอน อื่น ๆ ต่อไป