เลขาฯกกต. ยันระบบนับคะแนนเลือกตั้ง ECT Report โปร่งใส

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเรียลไทม์ หรือ ECT Report ว่า เหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนคนกรอกข้อมูล เพราะงานของ กกต.ต้องถูกต้องมาก่อน เพราะเป็นหน่วยงานราชการ ผิดไปคะแนนเดียวก็ไม่ได้ นี่คือเป้าหมาย ถ้าให้กรรมการประจำหน่วย (กปน.) ซึ่งเป็นชาวบ้านกรอกก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะไม่ถูกต้อง เมื่อตรวจสอบเอกสารรายงานผลคะแนนหน้าหน่วย (แบบ ส.ส. 5/18) ถูกต้องแล้วติดหน้าหน่วย จากนั้นคะแนนก็จะไหลเข้าไปในระบบ ก็จะทยอยเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วให้สื่อมาเชื่อมต่อกับเรา



เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง ก็จะมาตกลงกับสื่อมวลชนว่าจะนำเสนอข้อมูลอย่างไร จะไม่นำเสนอกับประชาชนเอง ส่วนรูปแบบการนำเสนอก็อยู่ที่สื่อจะนำเสนอ ข้อมูลที่สื่อจะได้รับก็ตั้งแต่คะแนนแรกที่ กกต.กลางได้รับข้อมูล ตนไม่สามารถระบุเวลาได้ เมื่อแต่ละหน่วยตรวจสอบความถูกต้องแล้ว แล้วกรอกข้อมูลในเอกสาร 5/18 แล้วนำไปติดหน้าหน่วย แล้วนำสำเนาของ 5/18 ในระบบเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่ คนที่บวกคะแนนไม่สำคัญเท่ากับเอกสาร 5/18 ที่ติดหน้าหน่วยกับ เอกสาร 5/18 ในระบบที่ตรงกัน ซึ่งในเอกสาร 5/18 มี กปน.ลงชื่อทั้งหมด 9 คน ยืนยัน ไม่มีใครแก้คะแนน



เมื่อถามว่า จะรายงานผลเลือกตั้งเป็นระยะหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสื่อที่จะนำข้อมูลไปเผยแพร่ แต่อาจเกิดการผิดพลาดทางเทคนิคแล้วระบบล่มได้ หากมีการเชื่อมข้อมูลมาเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิค



เมื่อถามว่า การนับคะแนนเลือกตั้งที่มาจากต่างประเทศ ครั้งที่ผ่านมาเกิดข้อผิดพลาดที่นับคะแนนไม่ทัน ครั้งนี้ได้วางแนวทางแก้ไข เพื่อไม่ให้คะแนนตกน้ำหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ทาง กกต.ได้มีการเตรียมการแก้ไขไว้แล้ว เพราะมีบทเรียนและจะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งจะมีการติดตามถุงส่งบัตรลงคะแนนไม่ให้คลาดสายตา เพื่อจะให้มาถึงก่อนวันเลือกตั้งแล้วนำส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้ใช้สิทธิ์ พร้อมยืนยันว่า มีแนวทางป้องกันคะแนนสูญเปล่าไว้แล้ว



นายแสวง ย้ำว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงการรายงานผลตามระบบ ECT Report ได้ โดยติดตามได้ที่หน่วยเลือกตั้ง และเข้าเว็บไซต์ของ กกต.แต่ละจังหวัด ขณะนี้ ECT report กำลังพัฒนา ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว ไม่เหมือนกับระบบเดิมที่จะต้องมีการอบรม กปน.ด้วย เพราะ กกต.เป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งการรายงานผลคะแนนครั้งนี้น่าจะเป็นที่สนใจและเร็วที่สุด และภายในคืนวันเลือกตั้งก็น่าจะรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการแล้ว



ทั้งนี้ หากซักซ้อมให้ดี อำนวยความสะดวกทั้งเรื่องการนับคะแนน และการให้ประชาชนในการลงคะแนน ภายในคืนนั้นก็น่าจะทราบผลทั้ง 77 จังหวัด พร้อมระบุว่า ตั้งเป้าหมายในการรายงานผล 100% คือ ถูกต้องทั้งคะแนน และทุกอย่างถูกต้อง 100% โดยนำบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว และนำมาพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้มีเงื่อนไขให้น้อยที่สุด ในส่วนของ กกต.ยังไม่มีเงื่อนไขอะไร และอยากทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อยและถูกต้องที่สุด



เมื่อถามถึงกรณีส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการคำนวณสัดส่วนราษฎรต่อการแบ่งเขตเลือกตั้ง นายแสวง กล่าวว่า ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ขอให้สบายใจได้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนไทม์ไลน์การแบ่งเขตอาจจะขยับบ้าง แต่ไม่เกินตามที่วางไว้ ซึ่งพยายามเร่งเวลาการทำงาน เพราะ กกต.ต้องให้เวลากับพรรคการเมืองในการทำไพรมารี



เมื่อถามว่า คาดว่าจะใช้เวลากี่วันในการดำเนินการ นายแสวง กล่าวว่า ยึดตามอายุครบของสภา นี่คือเวลาที่นานที่สุดแล้ว แต่ต้องทำให้เสร็จก่อนที่พรรคการเมืองจะทำไพรมารี ซึ่ง กกต.ให้เวลาพรรคการเมืองทำไพรมารี 10 วัน



นายแสวง ยืนยันอีกว่า ช่วงเลือกตั้งยังสามารถทำโพลสำรวจได้อยู่ แต่อย่าไปชี้นำหรือจูงใจ และอย่าเปิดเผยก่อน 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ให้ไปเปิดเผยหลังวันเลือกตั้ง



เมื่อถามว่าที่ นายแสวง ระบุว่า ในช่วงการเลือกตั้ง 18 ชั่วโมง หากไม่ทำให้เรียบร้อย จะอยู่ไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า คือการบริหารจัดการของสำนักงาน กกต.ที่ต้องมีประสิทธิภาพ ซึ่งตนพูดกับพนักงานของตนเสมอว่า เราทำงานเหนื่อยขนาดนี้ ยังมีคนไม่เข้าใจ อย่างเรื่องบัตรหรือเรื่องอื่นๆที่พนักงาน กกต.ไม่ได้ทำ เป็น กปน.ทำ แต่ กกต.เป็นคนออกแบบให้ กปน.ทำงาน ซึ่งต้องอย่าให้มีความผิดพลาดในหน่วยเลือกตั้ง อย่าให้ประชาขนเคลือบแคลงใจในการทำงาน



เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรได้ว่าโปร่งใส นายแสวง กล่าวว่า คำว่าโปร่งใส บางอย่างเห็นได้ หากผลในเอกสาร 5/18 ผิด ระบบก็จะแจ้งขึ้นมาทันที เราออกแบบเพื่อให้โปร่งใส ที่สามารถดูได้ทุกครั้ง ดูได้ทุกอย่างที่สามารถเห็นได้ แต่บางอย่าง ถ้าเกิดความสงสัย ก็สามารถตรวจสอบได้ จึงออกระบบมาเช่นนี้ การนับคะแนนเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนคนกรอก ระบบก็จะเปลี่ยน เพราะคนกรอกแสนแผ่นก็กรอกไม่ไหว จึงต้องเปลี่ยนระบบให้โปร่งใสและดีขึ้น