ป.ป.ส. โชว์ 2 เคส ซุกยาในกระเป๋าปักลายชาวเขา ยึดเฮโรอีน-เคตามีน

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึงเมื่อวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด พร้อมคณะ เป็นตัวแทน สำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมการเสวนาสามประเทศห้า หน่วยงานและการประชุมด้านบังคับใช้กฎหมายยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ศุลกากรระดับสูงประจำภูมิภาคครั้งที่ 6 ประกอบด้วย ศุลกากรมาเก๊า สำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ศุลกากรนิวซีแลนด์ ศุลกากรไทยประจำฮ่องกง และ ศุลกากรไทยประจำกวางโจว ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า “ในห้วงการร่วมประชุมเสวนา สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากศุลกากรฮ่องกง พบว่าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ศุลกากรฮ่องกง แถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 48 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขา สำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้โครงการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task force : AITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. ศุลกากร บช.ปส. และศูนย์รักษาความปลอดภัย จึงได้ประสานศุลกากรประเทศไทย จึงได้ตรวจสอบและเฝ้าระวัง ต่อมาอีกคดี วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ชุดปฏิบัติการ AITF ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ พร้อมคีตามีน 1.7 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขา เตรียมจัดส่งปลายทางไต้หวัน เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งเอกชน แห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยไม่แจ้งข้อมูลผู้รับปลายทาง

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลกับศุลกากรฮ่องกง และกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (Ministry of Justice Investigation Bureau : MJIB) เกี่ยวกับคดีการจับกุม ตรวจยึดยาเสพติด ทั้ง 2 คดี เนื่องจากพบว่า มีลักษณะการซุกซ่อนในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขาเหมือนกัน เพื่อขยายผลเกี่ยวกับผู้รับ-ผู้ส่ง สอดคล้องตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นย้ำความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันสืบสวนขยายผลถึงผู้ส่งพัสดุที่ซุกซ่อนยาเสพติด รวมทั้งประสาน ศุลกากรฮ่องกง และ MJIB ในการสืบสวนขยายผลผู้รับปลายทาง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีทั้งภายในและภายนอกประเทศ ได้มีการบูรณาการทางด้านการข่าว และการสืบสวนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในการสกัดกั้นยาเสพติดลักลอบเลียงยาเสพติดโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไปยังปลายทางประเทศที่สาม ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติยังคงมีความเคลื่อนไหว และพยายามลักลอบจัดส่งยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง



ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวน ปราบปราม รวมถึงขยายผลหาบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้ายาเสพติดระดับข้ามชาติทั้งเครือข่ายทั้งหมดสิ้น