หญิงสุดทน คบหาหนุ่มวัย 27 ไม่ถึงปีออกลาย ลวงข่มขืนถ่ายคลิปแบล็กเมล

น.ส.ภัทรสุดา อายุ 42 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สามารถ สัตยา รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยข่มขู่และข่มขืน มีการแอบถ่ายคลิปลับเพื่อเรียกเงินเกือบ 300,000 บาท เหตุเกิดในเดือนตุลาคม ประมาณวันที่ 2 , 26 และ 27 ตุลาคม 2565 จุดเกิดเหตุภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถูกก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง และล่าสุดโดนทำร้ายร่างกาย มีร่องรอยการถูกทำร้ายทั้งตัวและที่ใบหน้า ซึ่งตนได้บันทึกการสนทนาทางเฟซบุ๊กและสลิปการโอนเงิน โดยใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต



น.ส.ภัทรสุดา กล่าวว่า ตนถูกข่มขู่บังคับโดยใช้ข้ออ้างว่าจะเอาคลิปลับไปประจาน และจะไปอาละวาดที่ทำงาน รวมถึงที่โรงเรียนลูกด้วย จึงทำให้ตนเกิดความหวาดกลัวและกลัวความอับอาย จนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุคือนายสันติสุข อายุ 27 ปี ทำงานเป็นพนักงานขับรถพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ



น.ส.ภัทรสุดา เล่าอีกว่า ตนรู้จักผู้ชายคนนี้เพราะได้ทำงานด้วยกัน อยู่ในกลุ่มประกันโควิดด้วยกัน ทำให้ได้คุยกันมากขึ้น คบหาพูดคุยกันมาเกือบ 9 เดือน ช่วงแรกๆคบกันเขาก็ดี พอเริ่มหลังๆ เริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน เพราะรถจักรยานยนต์ของเขาจะโดนยึด เขาก็เลยมาข่มขู่จะเอาเงิน เหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งแรกวันที่ 3 ตุลาคม 65 เวลาประมาณ 5ทุ่มกว่า เขามารับตนที่บ้าน และบังคับตนเข้าโรงแรม เขาข่มขู่สารพัด ถ้าไม่ให้เงินจะไม่ให้โทรศัพท์ ไม่ให้อะไรเลย และตนยังโดนข่มขืนทำร้ายร่างกายด้วย หลังจากเสร็จกิจแล้ว เขาได้เอาโทรศัพท์ของตนไป เพื่อเอาไปเช็กข้อมูลในโทรศัพท์ทุกอย่าง เขามีอาการหึงหวงตนตลอด ชอบข่มขู่ว่าจะเอาพวกมารุมโทรม จะทำให้ตนเสียหาย เขาจะพูดแบบนี้อยู่ตลอดเกือบทุกครั้ง



และโดนกระทำอีกในวันที่ 26 กับ 27 ตุลาคม เขาก็ไปรับตนที่บ้าน มารับไปกินข้าว ตนบอกว่าครั้งที่แล้วมันผิดพลาดไปแล้วก็ไม่เป็นไร แต่พอตนได้รู้ว่าเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอตอนข่มขืนเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ และเอาคลิปมาขู่ตนอยู่ตลอดเพื่อให้ตนกดเงินให้ ถ้าไม่ทำตาม เขาขู่ว่าจะฟ้องที่ทำงาน จะไปที่โรงเรียนลูก ตนเคยเห็นคลิปวิดีโอแล้วเพราะเขาส่งมาให้ดู จึงรู้ว่าในคลิปเป็นตนที่โดนกระทำ ตนโดนข่มขู่ประมาณ 3 ครั้ง สูญเสียเงินไป 3 แสนกว่า แต่เขาก็มีคืนมาบางส่วน เพราะตนบอกว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมลูก เขาก็โอนมาทีละ 1-2 หมื่นบาท



สาเหตุที่ต้องมาแจ้งความ เพราะทีแรกตนคิดว่าเรื่องจะจบแล้ว มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่เหตุมันเกิดขึ้นวันนี้อีก ตนทนไม่ไหวแล้ว สิ่งที่ตนกลัวมากที่สุดคือ กลัวเขาจะมาทำร้ายลูก ทำร้ายตน เขาบอกว่าอยากได้อะไรไปแจ้งความเลย เพราะเขาคิดว่าตนไม่มีทางที่จะทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้ หรือทำอะไรเขาไม่ได้ เขาท้าตนให้มาแจ้งความ ตนเคยโดนบังคับเข้าโรงแรม แล้วให้ตนเดินออกมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มโดยที่ใส่แค่กางเกงในตัวเดียว มีเสื้อบางๆ คลุมออกมา เพราะถ้าไม่กดเงินให้ เขาจะให้พวกมารุมโทรม ตนจึงต้องยอม



ด้าน พันตำรวจเอก ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับ สภ.พระประแดง ได้เรียกผู้เสียหายไปสอบสวนด้วยตัวเอง และสั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำทันที และให้ชุดสืบสวนไปสืบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ทำงานและบ้านพักอาศัยอยู่ที่ใหน เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย