ผู้เสียหาย ถูก กอล์ฟ ทรงเอ หลอกลงทุน ร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

เมื่อเวลา 10.00 น. ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งเดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือแจ้งความร้องทุกข์ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีที่ถูกนายกรวิชญ์ ลอยสูงวงค์ หรือ กอล์ฟ ทรงเอ ชักชวนลงทุน ให้ผู้เสียหายนำเงินไปซื้อเงินสกุลดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แล้วโอนเงินสกุลดิจิทัลไปให้นายกรวิชญ์ โดยอ้างว่านำไปลงทุนให้ แต่สุดท้ายได้ปิดแพลตฟอร์มไป ไม่สามารถถอนเงินได้ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท



ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันไปแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่มีความเสียหายจำนวนมาก โดยมีผู้เสียหายกว่า 200 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท จึงอยากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ และช่วยดำเนินการตามยึดทรัพย์สินกลับมาคืนให้กับผู้เสียหาย เพราะทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุมีทรัพย์สินจำนวนมาก และขณะนี้ก็กำลังมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินด้วย



สำหรับพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ จะทำการชักชวนบุคคลให้ไปลงทุนเงินสกุลดิจิทัล โดยชักชวนในหลายช่องทาง ทั้งการชักชวนผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ก / เฟซบุ๊กไลฟ์ / กลุ่มไลน์ / ยูทูป โดยมีการสร้างไลน์ OA และมีการนัดพูดคุยพบปะกับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อสอนวิธีการลงทุน ลักษณะเป็นการชวนให้ลงทุนเงินสกุลดิจิทัลกับผู้ก่อเหตุ อ้างว่ามีระบบเทรดอัตโนมัติ สามารถทำกำไรให้ได้ทุกวัน และจะถอนเงินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนให้จริงๆ



โดยในช่วง 5 เดือนแรกที่เริ่มลงทุนนั้น สามารถได้กำไรพร้อมกับเงินที่ลงทุนไปกลับมาจริง อัตรากำไรวันละ 1% และสามารถถอนออกมาได้ทุกวัน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ มีคนลงทุนจำนวนมากตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงกว่า 10 ล้านบาท และยังชักชวนเพื่อน คนรู้จักให้มาลงทุนด้วย จนกระทั่งเมื่อช่วงวันที่ 27-28 ธันวาคม 2565 อยู่ๆ ระบบก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และไม่สามารถติดต่อผู้ก่อเหตุได้อีกเลย



ทั้งนี้ คดีนี้ถือว่ามีความซับซ้อน เพราะผู้ก่อเหตุ จะให้ผู้เสียหายนำเงินบาทไปแปลงเป็นเงินคริปโต หรือเงินสกุลดิจิทัลด้วยตนเองผ่านช่องทางต่างๆ ก่อน จากนั้น จึงให้โอนเงินคริปโตไปให้ผู้ก่อเหตุ อ้างว่านำไปลงทุน เทรดอัตโนมัติให้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายหลายคนได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่ปรากฎว่าพนักงานสอบสวนก็ยังไม่เข้าใจว่าเงินคริปโตคืออะไร หลอกยังไง จึงต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษด้วย



ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า วันนี้กรมสวนคดีพิเศษจะทำการรับเรื่องร้องเรียนไว้ และหลังจากนี้ ผู้เสียหายรายอื่นๆ สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติม หรือส่งเรื่องมาทางไปรษณีย์ก็ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวมเรื่องทั้งหมดเป็นเลขที่สำนวนเดียวกัน และนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์ในการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่จากการพิจารณาเบื้องต้น ลักษณะพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกง และมีผู้เสียหายและผลกระทบจำนวนมาก ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ