ทนายตั้ม พา "แก้มบุ๋ม" ร้อง บช.ก ถูกผิดมือดีนำรูปตนไปใช้ขายโฆษณาขายน้ำหอม ทำให้คนเข้าใจผิด

(8 ก.พ.) ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยนางสาวปรียาดา หรือแก้มบุ๋ม ดารานักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนจำนวน 5 คนในเบื้องต้น ที่เป็นผู้นำภาพถ่ายของดาราสาวพร้อมน้ำหอมยี่ห้อหนึ่งไปใช้ในการโฆษณาเพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าน้ำหอมดังกล่าวเป็นของดาราสาว




โดย ทนายษิทรา ระบุว่าภาพที่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ดังกล่าว เกิดขึ้นในข่วงที่ คุณแก้มบุ๋ม มีการนำน้ำหอมยี่ห้อหนึ่งมาทำการไลฟ์รีวิวเพื่อขาย ตามปกติ แต่มีคนที่แคปภาพหน้าจอขณะที่มีการไลฟ์ของคุณแก้มบุ๋มไปใช้และมีการส่งต่อๆกันไป โดยเป็นการใช้ในการขาย ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าน้ำหอมยี่ห้อดังกล่าวเป็นของคุณแก้มบุ๋ม ซึ่งส่งผลกระทบกับตัวดาราสาว ในวันนี้จึงเดินทางมาเพื่อแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนจำนวน 5 คน ในเบื้องต้น ที่สามารถระบุตัวตนจากชื่อนามสกุลจริงที่ใช้ ในการนำภาพดังกล่าวไปโพสต์ขายน้ำหอม ซึ่งข้อหาที่จะแจ้วความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ในวันนี้ คือ ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ จากการนำภาพของตัวคุณแก้มบุ๋มไปใช้ และ ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการลวงขายสินค้า และฉ้อโกงประชาชน ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าสินค้าเป็นของคุณแก้มบุ๋ม





ขณะที่ตัวดาราสาวระบุว่า จริงๆแล้วตนเองไม่ได้อยากแจ้งความเอาผิด ยูสเซอร์ ที่นำภาพไปใช้ แต่การที่นำภาพของตนเองไปใช้ และมีการขายของดังกล่าวในราคาที่ถูกกว่า หรือการขายตัดราคา ตนเองรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตนเอง ประกอบกับในปีนี้ ตนเองกำลังจะเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอม มันมีผลกระทบกับงานของตนเอง ซึ่งส่วนตัวต้องการเอาผิดกับคนที่เป็นต้นตอของเรื่อง ที่เป็นคนแคปหน้าจอ ในช่วงที่ตนเองไลฟ์ขายของ ไปแจกจ่าย เพราะพบว่ามีคนนำภาพที่เหมือนกันนี้ไปใช้ จำนวนมาก แต่ตนเองได้พยายามที่จะหาต้นตอคนทำแล้ว แต่คนที่นำภาพไปใช้ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ




รวมถึงยังมีบางคนบอกว่าทางโรงานเป็นคนส่งมาให้ใช้ ตนเองจึงต้องเดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่นำรูปตนเองไปใช้ แต่หากใครที่รู้ว่าต้นตอเป็นใคร หากมาบอกกับตนเองก็พร้อมจะพิจารณาในการไม่แจ้งความเอาผิด ทนายษิทรา ยังระบุยืนยันอีกว่า น้ำหอมยี่ห้อดังกล่าวไม่ใช่ของแก้มบุ๋ม และไม่ได้มีการว่าจ้างให้แก้มบุ๋มมารีวิว แต่เป็นการหยิบฉวยโอกาสนำภาพไปใช้ ส่วนใครที่ยังใช้รูปภาพนี้อยู่ ขอให้ลบทิ้ง และเลิกใช้ภาพดังกล่าว เพราะหากยังใช้อยู่ ก็จะดำเนินการทางคดีต่อไป