เลือกตั้งและการเมือง

‘ชัยวุฒิ’ ขอเลิกดัดจริต ดันบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชูเป็นนโยบาย พปชร.

โดย chutikan_o

2 ก.พ. 2566

161 views

ชัยวุฒิขอเลิกดัดจริต ดันบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฏหมาย เก็บภาษี เข้าชาติ เเก้ปัญหาส่วย พร้อมหนุน เป็นนโยบายพรรคพลังประชารัฐ



นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ออกมาตั้งคำถามถึงการขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยว่า ทำไมกัญชาขายได้ แต่บุหรี่ไฟฟ้าขายไม่ได้ในประเทศไทย



นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งออนไลน์และการวางขายทั่วไปนั้น ต้องใช้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน จับกุมผู้ที่ทําผิดกฎหมาย และส่งข้อมูลมาทํางานร่วมกับดีอีเอส ในการขอปิดกั้น ซึ่งเราก็ทํามาโดยตลอดแต่ก็ต้องยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้า มันเป็นวิถีชีวิตของประชาชนกลุ่มหนึ่ง และในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ในยุโรป ในอเมริกา หรือแม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ก็มีหลายประเทศที่เขาถูกกฎหมาย เขาก็สามารถบริโภคได้ แล้วพอมันฝืนวิถีชีวิตประชาชน มันก็เกิดการลักลอบใช้และขาย ช่องทางทําให้เกิดธุรกิจผิดกฎหมาย เกิดส่วย การเรียกรับผลประโยชน์ เกิดการขายกันอย่างทั่วไป ไม่ใช่ออนไลน์เดียว ตามตลาดก็ขายกันทั่วไปหมด



“ผมคิดว่าดัดจริต ผมว่าน่าจะเลิกได้แล้วนะ อย่าพูดว่าห้าม พูดตรงๆ ก็คงต้องแก้ปัญหากันต่อไป ผมคิดว่าหัวใจสําคัญคือเราต้องทําเรื่องนี้ให้ถูกกฎหมาย ถ้าเราคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นวิถีชีวิตและเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นสิ่งที่คนยอมรับได้ เราก็ควรจะทําให้ถูกกฎหมาย แล้วก็ให้ขายแล้วก็เก็บภาษีให้ถูกต้อง เพื่อเอาภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในเรื่องอื่น ลดภาระประชาชน” นายชัยวุฒิกล่าว



นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าพูดมานานแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าเห็นด้วยที่ทําให้ถูกกฎหมาย แต่ด้วยอํานาจและหน้าที่อาจจะทําได้ไม่เต็มที่ แต่จะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลมีอํานาจหน้าที่เข้ามาทําต่อ จะแก้ปัญหานี้ด้วยการผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เก็บภาษีให้ถูกต้อง



ทั้งนี้ยังกล่าวถึงการปิดแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ว่า อันนี้มีความผิดแล้วอาจจะมีเรื่องอื่น เช่น เกี่ยวกับการพนันหรือไม่ การขายหวยที่ไม่มีหวย ถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการดําเนินการปิดเว็บไปแล้ว ทั้งหมด 12 เว็บไซต์ ก็เหลืออยู่บางเว็บที่ยังปิดไม่ได้ เพราะว่าเจ้าของเว็บไซต์คัดค้าน แล้วก็อยู่ระหว่างรอคําสั่งศาล ศาลก็คงจะไต่สวนแล้วก็มีคําสั่งเร็วๆ นี้ คิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่พยายามดําเนินการอยู่ แต่ว่าหัวใจสําคัญก็คงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตํารวจหรือว่าดีเอสไอ คงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในเรื่องอื่นด้วย เพราะว่าการปิดแค่เรื่องกองฉลากกินแบ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ว่ามันอาจจะมีเรื่องฟอกเงิน หรือเรื่องที่มีความเสียหายหรือความผิดรุนแรงกว่านั้น เจ้าหน้าที่ก็เลยเลือกที่ต้องติดตามกันต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News