เร่งปูพรมหา 4 ผู้สูญหาย เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด กรมเจ้าท่าสั่งปิดอู่ หาสาเหตุใน 10 วัน

กรณีเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 3 ล้านลิตร ระเบิด ที่สมุทรสงคราม แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และสูญหายอีก 4 ราย เช้านี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งค้นหาที่เหลือ


เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวาน (17 ม.ค.) เวลาประมาณ 09.10 น. ภาพวงจรปิดจะเห็นเพลิงลุกไหม้บนเรือ 'สมูทซี 22' (smooth-C 22) จังหวะนั้นมีคนงานอยู่ 4 คนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นก็มีไฟลุกขึ้นมาแล้วเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ต้องวิ่งหนีตายเอาตัวรอด


ขณะที่ภาพอีกมุมจากท่าเรือ จะเห็นมีคนทำงานอยู่ทั้งบนเรือ และบนฝั่ง แล้วก็เกิดระเบิดขึ้น ต่างคนต่างวิ่งหนีตาย


ส่วนภาพที่อยู่บนตึกฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจะเห็นการระเบิด และแรงระเบิดทำให้ชิ้นส่วนเรือ กระเด็นและลอยขึ้นสูงก่อนจะตกกระทบลงน้ำ พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกท่วม


นอกจากนี้ยังมีภาพจากบนอาคารริมน้ำ ที่เห็นขณะเกิดเหตุระเบิด และมีชิ้นส่วนเหล็กของตัวเรือโดนแรงระเบิดอัดออกมาไกลพอสมควร แรงระเบิดทำให้กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ค่อนข้างไกลถึงกับสั่นไปด้วย และแรงระเบิดครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนประชาชน และอาคารต่าง ๆ ที่อยู่ในรัศมี 500 เมตร เสียหายทั้งหลังคาพัง กระจกแตก และฝ้าหลุด ทันทีที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ระดมรถ และเรือดับเพลิงจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้


หลังเกิดเหตุล่าสุด พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า วันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 1 ราย ส่วนผู้สูญหาย ขณะนี้มี 4 ราย ตอนนี้นักประดาน้ำกำลังระดมกำลังเร่งค้นหา พร้อมกับกันเป็นพื้นที่อันตราย เพราะอาจจะเกิดระเบิดซ้ำได้ พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือที่วัดปากสมุทร อำเภอเมืองสมุทรสงคราม


นาย อมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ กล่าวว่า ทาง อบต.ได้เตรียมพร้อมสนับสนุนภารกิจค้นหา และลงทะเบียนรับผู้ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นมีชาวบ้านในตำบลแหลมใหญ่ ได้รับผลกระทบกว่า 60 ราย และยังมีตำบลใกล้เคียงอีกกว่า 20 ราย ซึ่ง อบต.จะเปิดรับลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบต่อไป


ขณะที่ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยเบื้องต้นได้ตรวจสอบอู่ต่อเรือของ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ดฯ พบว่า ได้รับใบอนุญาตให้เป็นอู่ผู้ประกอบการ อู่ต่อเรือถูกต้องตามกฎหมายเมื่อปี 2561 หลังเกิดเหตุได้สั่งปิดอู่ต่อเรือฯ และลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยในเรือดังกล่าว เป็นเรือที่บรรทุกน้ำมัน มีน้ำมันเตาอยู่ 3 หมื่นลิตร และมีน้ำมันดีเซลในการขับเคลื่อนเรือค้างอยู่ในเรือ 2,500 ลิตร ซึ่งเรือดังกล่าว มีประกันเรือ และเครื่องยนต์ มูลค่า 60 ล้านบาท


ด้าน นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เผยว่า เรื่องนี้ยังเป็นข้อสงสัย จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องเข้ามาร่วมอยู่ในการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 10 วัน


ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการซ่อมหน้าเรือที่มีการอ๊อกเหล็กเชื่อมเหล็ก ซึ่งมีน้ำมันตกค้างอยู่ แล้วเกิดการปะทุจากการเชื่อมเหล็ก จึงเกิดการระเบิดขึ้น


https://youtu.be/r8i1N8rSec8