'ชาวเล' ยื่นหนังสือต่อกรมธนารักษ์ จี้สอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 'รร.บ้านเกาะหลีเป๊ะ' หลังเอกชนอ้างมีพื้นที่ทับซ้อน

ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ เดินหน้ายื่นหนังสือถึงกรมธนารักษ์ ตรวจสอบที่ราชพัสดุที่ตั้งโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะหลังมีเอกชนอ้างมีพื้นที่ทับซ้อนจนกลายเป็นข้อพิพาท และยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสหประชาชาติ ให้ความคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่นดั้งเดิม


ชาวเลเกาะหลีเป๊ะได้เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อขอให้สหประชาชาติได้ทำการตรวจสอบและให้คำแนะนำกับรัฐบาลไทย ที่ได้ลงนามในปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ในกรณีชนเผ่าพื้นเมืองเดิมที่มีชื่อว่า "อูรักลาโว้ย" ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและอาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล มากว่า 125 ปี แต่รัฐบาลไทยไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงและสนธิสัญญาที่ได้ลงนามไว้ และปล่อยปะละเลยให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิม และขอให้ สร้างความเข้าใจกับรัฐบาลไทยในความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการหรือกฎหมายที่มีลักษณะคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์


นอกจากนี้ ชาวเลเกาะหลีเป๊ะได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้เร่งรื้อุอนสิ่งปลูกสร้างที่อุทยานทวงคืนบนเกาะหลีเป๊ะและเร่งตรวจสอบที่ดินที่ออกเอกสารทับที่ดินอุทยาน รวมถึงกันพื้นที่ให้ชุมชนชาวเล "อูรักลาโว้ย" เกาะหลีเป๊ะ อยู่อาศัยตามแนวทางโฉนดชุมชน รวมถึงกรณีเคยมีผลการตรวจสอบของ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2533 ซึ่งเป็นบิดาของนายวราวุธ ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปดำเนินการใดๆ จึงขอให้เร่งแก้ไขปัญหา รวมถึงการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล รวมถึงกานป้องกันความเสียหายของปะการังน้ำตื้น จากการเข้าออกของเรือท่องเที่ยวจอดถึงชายหาด


ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ยังได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องขอให้เร่งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ ดูแลโดยกรมธนารักษ์ แต่มีเอกชนอ้างสิทธิ์ในที่ดินบริเวณทางเข้าโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ และอาจมีการอ้างสิทธิในที่ดินราชพัสดุของโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะด้วย ตามแผนที่ชี้แนวเขตว่าที่ดินดังกล่าวทับบนที่ดินราชพัสดุของโรงเรียน จึงเป็นเหตุให้เกิดกรณีพิพาทระหว่างเอกชนกับชาวเลและนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ จึงขอให้กรมธนารักษ์ตรวจสอบเร่งนี้อย่างเร่งด่วน


นายศุภชัย ตั้งวัฒนากร ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ กล่าวขอบคุณชาวเลที่ลุกขึ้นมารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งเป็นที่ดินของราชการ โดยหลังจากนี้ทางกรมธนารักษ์จะเร่งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่ทางกลุ่มได้มายื่นหรือไม่ พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วยการใช้เทคโนโลยีในการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง