เก๋งไฟลุกกลางสี่แยก พลเมืองดีหิ้วถังสารเคมีเข้าช่วยดับไฟก่อนไฟไหม้ทั้งคัน

พลเมืองดีช่วยรถเก๋งไฟลุกใหม้กลางสี่แยก บ้านฝ้าย ขณะติดไฟแดง ขับรถวิ่งสวนทางเข้าช่วยเหลือ นำเครื่องดับเพลิงในรถ ช่วยดับไฟได้ทันก่อนไฟลุกท่วมทั้งคัน นับเป็นพลเมืองรับศักราชใหม่ของปี 66 เผยเจอเหตุการณ์ก็นึกถึงตนเองหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็คงคิดอะไรไม่ออกคงปล่อยให้รถไฟใหม้ทั้งคัน พอดีในรถมีเครื่องดับเพลิงและถุงมือ จึงกระโดดเข้าไปช่วย



เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 66 ร.ต.อ.จงเย็น โปธาตุ รอง สว.สอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.สูงเม่น รับแจ้งเหตุมีรถเก๋งไฟไหม้ ที่แยกบ้านฝ้าย ต.ร่องกาศ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ไม่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง อบต.ร่องกาศ อบต.เวียงทอง และ หน่วยกู้ภัยสูงเม่น และใกล้เคียง ออกช่วยเหลือ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง



พบรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน ทีด้า สีดำ ทะเบียน ชบ 4767 กรุงเทพ จอดอยู่ชิดถนนติดไฟแดงจุดจะจาก ต.นาจักร จะอ้อมเข้าใน อ.เมืองแพร่ สภาพเพลิงลุกไหม้หน้ารถซึ่งเป็นห้องเครื่อง พบว่ามีพลเมืองดีที่พบเหตุ ได้นำถังดับเพลิงออกมาช่วยเหลือดับไฟที่ลุกไหม้ ก่อนที่รถดับเพลิงจากมาถึง และทำการใช้น้ำฉีดพ่น ประมาณ 5 นาที ไฟจึงดับ พบว่า สายไฟและอุปกรณ์ที่หน้ารถเสียหาย ไหม้หลอมละลายเพราะความร้อน



จากการสอบถาม นายไวกูล สำเนียง อายุ 45 ปี ชาวบ้านกาญจนา ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เจ้าของรถให้การว่า ก่อนเหตุตนเองจะเอารถมาซื้อของ โดยแวะเติมน้ำมัน เติมลมที่ปั๊ม แต่ระหว่างขับรถออกจากปั้ม ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงเปลี่ยนใจจะไปเช็กรถที่ศูนย์นิสสันแทน โดยระหว่างนั้นได้โทรประสานช่างที่ศูนย์ทราบ แต่เมื่อรถจอดติดไฟแดง เกิดไฟพุ่งขึ้นที่หน้ารถ ตนเองจึงได้หนีออกมาจากรถ ขอความช่วยเหลือ ซ้อนรถจยย.ส่งอาหาร ไปหาช่างที่ศูนย์ เพื่อจะไปบอกให้มาดู เมื่อกลับมาพบว่า รถไฟไหม้ และมีพลเมืองดีมาช่วยอยู่ เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากสายไฟซ็อต เพราะก่อนหน้านั้น 2-3 วัน ได้เอารถไปล้างอัดฉีดมา น้ำอาจจะเข้าไปทำให้สายไฟช็อตจนเป็นสาเหตุไฟไหม้ก็เป็นได้



ทางด้าน นายเป็ด อายุ 38 ปี พลเมืองดีชาวกรุงเทพมหานครที่พบเหตุ เผยว่า ระหว่างที่ตนเองขับรถมากับเพื่อนมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะไปเชียงราย มาติดไฟแดงที่สี่แยกบ้านฝ้าย เห็นรถที่จอดติดไฟแดงทางขวามือ มีควันขึ้นและไฟลุกไหม้ จึงตัดสินใจขับรถย้อนศรเข้าไปช่วยดับไฟ เพราะที่รถมีถังดับเพลิงอยู่ 2 ถัง โดยเตรียมถุงมือ และเสื้อแขนยาวลงไปด้วย เพราะกลัวไฟจะไหม้แขน



โดยเริ่มจากเข้าไปเปิดฝากระโปง  เนื่องจากหากฉีดสารเคมีข้างนอก มันก็จะไม่โดนไฟ เมื่อเปิดออกได้ จึงใช้ถังดับเพลิงฉีด ไฟจึงเบาลง และมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เอาขวดน้ำมาช่วยกันดับ เพลิงจึงไม่ลุกลามไปมากกว่านี้ จนกระทั่งรถดับเพลิงมาดังเพลิงได้ดังกล่าว



จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า รถเกิดไฟลุกขึ้นเอง และไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย จากนั้นได้ให้เจ้าของรถ ประสานรถยกมายกรถออกจากจุดเกิดเหตุ เพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป



สำหรับในเรื่องนี้ ที่ประชาชนที่เดินทางผ่าน ต่างยกย่องว่า พลเมืองรายนี้ มีน้ำใจ และฝ่าแยกไปจอดรถเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่รถยังติดไฟแดงกันอยู่กลางสี่แยก และไม่กลัวว่ารถที่ไฟลุกใหม้จะระเบิด อาจได้รับอันตราย จึงเป็นอุทาหรณ์ ที่ขับรถบนถนนต้องมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากมีอุบัติเหตุที่พอจะช่วยเหลือกันได้ ในปัจจุบันพบคนแบบนี้ได้ยากแล้ว จึงถือว่า มีพลเมืองดีที่โผล่มาแล้วตอนเริ่มศักราชปี 66