รวบแล้ว 4 แก๊งรุมทำร้ายพ่อค้าใบกระท่อม อ้างล้างแค้นเคยถูกกระทำก่อน

จากกรณีมีกลุ่มชายฉกรรจ์ ขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถเอนกประสงค์ รวมทั้งหมด 7 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งไม้เบสบอล ปืนจริง ปืนปลอม บุกทำร้ายร่างกาย นายคมกฤษ อายุ 27 ปี พนักงานขายใบกระท่อมที่ร้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยเสาธงกลาง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้นายคมกฤษ ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้าน จับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน



ล่าสุด พ.ต.ท.ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ สว.สส.สภ.บางเสาธง นำทีมฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ มาได้จำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1.นายไพศาล หรือ มด อายุ 33 ปี ผู้ที่ใช้ปืนจ่อผู้เสียหาย 2. นายธนกร หรือน็อต อายุ 39 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขับ และมีการชักอาวุธปืนขึ้นลำกล้องจ่อหันไปข่มขู่แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ 3.นายเลิศพันธ์ หรือ ป๊อป อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ใช้น้ำมันราดจุดไฟเผา และนายชลิต หรือ แบงค์ อายุ 34 ปี เป็นบุคคลที่ถือไม้เบสบอลทำร้ายร่างกายนายคมกฤษ โดยตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำและขยายผล พร้อมตรวจยึดของกลาง คือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีดำที่ใช้ก่อเหตุ ยึดอาวุธปืน 2 กระบอก



จากการสอบถาม นายไพศาล หรือ มด กล่าวว่า สาเหตุเริ่มมาจาก กลุ่มของผู้บาดเจ็บ มีเรื่องกับรุ่นน้องของตนในที่ทำงาน ได้ทำการปิดล้อมจะรุมทำร้าย ไม่ยอมปล่อยให้ออกจากโรงงาน รุ่นน้องได้โทรมาหาตนแล้วบอกว่า ผู้บาดเจ็บบอกว่ารู้จักกับตน ดังนั้นตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับภรรยา เพื่อมาเจรจากับผู้บาดเจ็บเพื่อขอให้ปล่อยตัวรุ่นน้อง ระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น ได้ถูกกลุ่มของผู้บาดเจ็บรุมทำร้ายร่างกายตนกับภรรยาได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะมาทำร้ายภรรยาของตนต่อหน้าต่อตา ทำให้ตนรับไม่ได้ รู้สึกแค้นใจมาก จึงได้ชักชวนเพื่อนจำนวน 3 คน มาร่วมกันเอาคืน ส่วนคนอื่น ๆ ตนไม่รู้จัก



พ.ต.ท.ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ สว.สส.สภ.บางเสาธง กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิดประมาณ 7 คน ระบุตัวได้แล้วจำนวน 6 คน และสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 4 คน เบื้องต้นได้แจ้ง 5 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งกายและจิตใจ , ร่วมกันกังขังหน่วงเหนี่ยว , ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ , ร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืนเถื่อนโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพกพาอาวุธไปในทาง เมือง สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร



โดยได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ คาดว่าจะติดตามจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้