สังคม

สาวร้อง ทำศัลยกรรมเจอหมอเถื่อน ทำจมูกพัง-คางบวม แถมยังหลอกให้โอนเงินซ้ำ

โดย nutda_t

13 ม.ค. 2566

383 views

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 5.2 โพสต์เรื่องราวเตือนภัยถึงการศัลยกรรม โดยมีผู้เสียหายรายหนึ่ง ร้องเรียนมาว่า ได้ไปทำศัลยกรรมกับคลินิกแห่งหนึ่ง แต่หลังทำกลับมีปัญหา และยังถูกหลอกให้โอนเงินซ้ำ



ทีมข่าวพูดคุยกับผู้เสียหาย อายุ 36 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตนสนใจจะทำศัลยกรรม จึงได้เสิร์ชหาคลินิกในเฟซบุ๊ก ก็ไปเจอกับเพจคลินิกดังกล่าว ซึ่งพอเข้าไปดูรีวิว ดูน่าเชื่อถือ จึงพูดคุยตกลงกับคลินิก ทำศัลยกรรมจมูกและคาง ในราคา 1 แสนบาท และนัดไปทำวันที่ 13 ตุลาคม 2565



โดยในวันที่ไปทำ ตนก็มีความเอะใจ เนื่องจากเจ้าของคลินิกที่ไม่ใช่แพทย์ มาอยู่ในห้องผ่าตัดด้วย โดยยืนอยู่ในตำแหน่งด้านบนศีรษะตน ส่วนแพทย์ที่เป็นผู้หญิง ยืนอยู่ด้านข้างเตียง จากนั้นก็มีการคลุมหน้า แต่ตนบล็อกยาชาไม่ได้วางยาสลบเลยพอรู้สึกตัว ซึ่งตลอดเวลาการผ่าตัดแพทย์กับพยาบาลไม่มีเสียงคุยกันเลย จนช่วงท้ายที่แพทย์ถามตนว่าเจ็บไหม ตนรู้สึกว่า เสียงแพทย์อยู่ไกลจากตัวมาก และพอลุกขึ้นมา ก็เห็นว่า แพทย์ไม่ได้ใส่ถุงมืออยู่ แต่คนที่ใส่ถุงมือคือเจ้าของคลินิก



จากนั้น หลังผ่าตัดศัลยกรรม ปรากฎว่าที่คางตนบวมมาก ตนพยายามสอบถามคลินิก ก็บอกว่าบวมเป็นปกติ แต่ตนรู้สึกไม่ปกติ พอวันที่ 24 ตุลาคม ที่ตนเข้าไปตัดไหม เลยขอเข้าพบเจ้าของคลินิก เขาก็บอกว่า เป็นเพราะไหมที่ยึดซิลิโคนกับคางไว้หลุด ทำให้บวม ตนเลยขอให้กรีดเอาซิลิโคนที่คางออกเลยจะได้ลดการอักเสบ ซึ่งในวันนั้นก็มาพบว่า แผลที่จมูกเย็บปิดไม่สนิทด้วย



ซึ่งเจ้าของคลินิกบอกว่า แผลที่จมูก จะแก้รอบ 2 ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เจ้าของคลินิกไม่อยากมีปัญหากับหุ้นส่วน จึงขอให้ตนช่วยจ่ายเงินค่าแก้รอบ 2 จำนวน 45,000 บาท เพื่อตบตาหุ้นส่วน แล้วในวันที่มาแก้ เขาจะจ่ายคืนเป็นเงินสดให้ทั้งหมด ตนจึงตกลงยอมจ่ายไป



หลังจากนั้น ตนก็กลับมาทำงานที่ต่างประเทศ และนัดกับเจ้าของคลินิกว่าจะกลับไทยไปแก้จมูกวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้ตนครั้งแรกกับทางแพทยสภา ก็พบว่าเป็นแพทย์เวชกรรม แต่ไม่ใช่แพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่งพลาสติก ซึ่งพอสอบถามกับเจ้าของคลินิกไป ก็ยอมรับ และบอกว่า ที่จะแก้จมูกครั้งที่ 2 จะให้แพทย์ศัลยกรรมจริงๆ เป็นผู้ผ่าตัดให้



จากนั้นพอตนกลับไทยมาวันที่ 16 ธ.ค. ปรากฎว่าเจ้าของคลินิก ก็พยายามขอเลื่อนนัดตนหลายๆ ครั้ง จนตนรู้สึกเอะใจ วันที่ 17 ธ.ค. จึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ว่าถ้าผิดนัดอีก และไม่คืนเงิน 45,000 บาท ตนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งวันที่ไปแจ้งความ ตนจึงเพิ่งได้รู้จากตำรวจว่า คลินิกนี้ถูกปิดไปแล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม โดย สคบ. ได้เข้าตรวจค้นและสั่งปิด เนื่องจากฉีดโบทอกซ์เถื่อน ไม่ได้ใช้แพทย์ในการฉีด ทั้งนี้หลังเจ้าของคลินิกทราบว่าตนแจ้งความ ก็ได้โอนเงินคืนมาแล้ว 20,000 บาท แต่จนถึงวันนี้ก็หายไป ติดต่อไม่ได้อีก



ผู้เสียหาย บอกอีกว่า ตนได้ไปหาข้อมูล พบว่าเจ้าของคลินิกไม่ได้เปิดคลินิกแค่ที่นี่ที่เดียว แต่ยังมีที่อื่นที่ใช้คนละชื่อกันหลายสาขา ซึ่งเป็นการเปิดคลินิกโดยที่เจ้าของไม่ใช่แพทย์โดยตรง แล้วเอาคนอื่นมาเป็นหุ่น ตนจึงรู้สึกไม่โอเค เพราะการศัลยกรรมมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายก็สูง ไม่ควรมาหลอกกันแบบนี้ และเจ้าของคลินิกเองก็เคยถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังประกันตัวแล้วมาทำต่ออีก ซึ่งหากหลังจากนี้ยังไม่รับผิดชอบตามที่ตกลงกันไว้ ตนก็จะไปแจ้งความฐานฉ้อโกง พร้อมฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า หากคิดจะทำศัลยกรรม ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีว่าแพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรงหรือไม อย่าเชื่อแค่รีวิวที่เห็น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ