ผบ.ตร.สั่ง 6 ตร. รวม 'เมียตู้ห่าว' ออกราชการ ชี้ปมธุรกิจรถทัวร์หลานนายกฯ ไม่เกี่ยวคดีโดยตรง

ผบ.ตร. เผย ตำรวจเตรียมสรุปสำนวนคดีตู้ห่าวส่ง อสส. ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้ทันกรอบระยะเวลาฝากขัง 20 มกราคม ขณะที่ตำรวจที่เอี่ยวคดีตู้ห่าวให้ออกจากราชการไว้ก่อน 6 คน รวมถึงภรรยาของนายตู้ห่าวที่เป็นตำรวจด้วย



พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนาย ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ว่า ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินแล้ว โดยเข้าไปแจ้งข้อหาถึงในเรือนจำ ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการสูงสุดได้พิจารณาได้ภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนจะครบวันกำหนดฝากขัง คือ 20 มกราคมนี้



ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน มั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะสอบปากคำพยานไปไม่ต่ำกว่า 400 ปาก รวมถึงมีทั้งพยานเอกสาร พยานหลักฐานที่ค่อนข้างแน่นหนา ซึ่งคดีนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 37 คน จับกุมได้แล้ว 19 คน ยังหลบหนีอยู่อีก 18 คน ซึ่ง 37 คนนี้ เป็นการขยายผลเรื่องผับจินหลิงและฟอกเงินเท่าเนั้น ไม่รวมกับกลุ่มนักเสพที่ตรวจจับ ได้ในผับ



ส่วนตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ให้ทั้ง 6 คนออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ประกอบด้วย พันตำรวจเอกหญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยาของนายตู้ห่าว ที่ถูกดำเนินคดีในคดีหลักในข้อหาฟอกเงิน / พันตำรวจเอก ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 / พันตำรวจโท คมไพร ทองลาด รอง ผู้กำกับการ จราจร สน.ลาดพร้าว / พันตำรวจตรี เกียรติศักดิ์ พิมมานนท์ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ยานนาวา / ร้อยตำรวจเอก สมยศ บุญณะแก้ว พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ยานนาวา และ พลขับของ พันตำรวจเอก ณัฐพล ทั้ง 5 คน นี้โดนกล่าวหาเรื่อง "เรียกรับสินบน"



ส่วนกรณีที่มีชื่อของหลานชายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถทัวร์ของนายตู้ห่าว เบื้องต้นได้รับข้อมูลจาก ป.ป.ส. มาส่วนหนึ่งว่า หลานชายนายกรัฐมนตรีได้ทำธุรกรรมเช่าซื้อรถทัวร์มาทำธุรกิจท่องเที่ยว ในปี 2562 จำนวน 33 คัน จากจำนวนรถทัวร์หลายร้อยคันในธุรกิจของนาย ตู้ห่าว แต่เมื่อย้อนไปดูคดีผับจินหลิงตั้งแต่ปี 2563 ที่เริ่มเปิดกิจการ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรง เพราะเกิดขึ้นก่อนการกระทำผิด แต่จะประสานกับ ป.ป.ส. เพื่อตรวจสอบข้อมูลในเรื่องทรัพย์สินและเส้นทางการเงินต่อไป



ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้ทิ้งท้ายว่า คดีนี้จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูแน่นอน โดยตำรวจดำเนินการชัดเจนทุกอย่าง เพียงแต่ไม่ได้บอกทุกขั้นตอน เพราะเกรงว่าผู้ที่วางแผนจะต่อสู้คดีจะรู้ตัว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/xVtaCtxZMMQ