นักท่องเที่ยวจีน แห่ไหว้ศาลพระพรหมเอราวัณ หลังเงียบเหงา 2 ปี จากพิษโควิด

ความสนใจต่อพระพรหมเอราวัณ ในหมู่ชาวจีน เริ่มต้นขึ้นอย่างน้อยในช่วงทศวรรษที่ 1970 และมารู้จักกันมากขึ้นเมื่อราว 40 ปีก่อน หลังมีหญิงชาวฮ่องกง ที่มาขอพรกับพระพรหมเอราวัณ และสมหวังด้านการงาน กลายเป็นข่าวที่กระตุ้นให้ชาวจีนเดินทางมากราบไหว้ ขอพรศาลท้าวมหาพรหม โดยก่อนช่วงโควิดระบาด จะเห็นภาพนักท่องเที่ยวชาวจีน มากราบไหว้ท้าวมหาพรหม กันอย่างเนืองแน่น



วันนี้บรรยากาศ กำลังกลับมาอีกครั้ง เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวจีน มากราบไหว้ขอพรกันคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางมากันเอง หรือ FIT และเป็นกลุ่มวัยรุ่น ลงเครื่องบินก็ดิ่งมากราบไหว้ท้าวมหาพรหมกันทันที ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แม่ค้าขายเครื่องไหว้บริเวณท้าวมหาพรหม บอกว่า วันนี้บรรยากาศคึกคัก กลับมา 90% หรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดแล้ว และเชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมากันมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย



ขณะที่วันนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกาศ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566 และ Visit Thailand Year 2023” ตั้งธงการท่องเที่ยวปี 2566 ให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 2562 โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมสูงสุด อยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน ทำให้มั่นใจว่า การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นคืนเศรษฐกิจให้กับประเทศและคนไทยอย่างยั่งยืน



ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ วางเป้าหมายในปี 2570 หรือ อีก 5 ปี ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ จำนวน 80 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ทำให้ในปี 2570 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ มากกว่าประชากรไทยซึ่งปัจจุบันมี 70 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.93 ล้านล้านบาท เมื่อปี 62 เบื้องต้นประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านคน โดยในปีนี้อาจแตะ 5 ล้านคน