แม่ร้อง ลูกชายถูกเพื่อนใช้ดินสอแทงตา ผ่านมา 6 เดือน ได้เยียวยาเพียง 7 หมื่น

น.ส.สุวิริภรณ์ อายุ 29 ปี นำเอกสารใบแจ้งความ สภ.บ้านหันห้วยทราย พร้อมด้วยเอกสารส่งตัวรักษาดวงตาลูกชาย วัย 9 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงพยาบาลประทาย ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังลูกชายถูกเพื่อนใช้ดินสอแทงดวงตา ระยะเวลาผ่านไป 6 เดือน ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี



น.ส.สุวิริภรณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุลูกชายกำลังเรียนอยู่กับเพื่อนๆ ภายในห้อง ระหว่างนั้นลูกชายได้ถูกเด็กชายเอ (นามสมมุติ) ใช้เข่าแทงกลางหลัง จนลูกชายของตนล้มลง จากนั้นเด็กชายบี (นามสมมุติ) เพื่อนอีกคน ได้ใช้ดินสอแทงเข้าที่ดวงตาด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุคุณครูในโรงเรียนไม่ได้โทรแจ้งรถพยาบาล หรือพาลูกของตนไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด



จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน พ่อของน้องจึงสอบถามว่าดวงตาได้รับบาดเจ็บเพราะอะไร หลังจากทราบเรื่องจึงได้พาลูกชายเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลประทาย ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์แจ้งว่า ดวงตาข้างซ้ายของเด็กมองไม่เห็น ต้องทำการผ่าตัดรักษาเป็นการเร่งด่วน แต่ไม่ยืนยันว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ผ่านมานานกว่า 6 เดือน ลูกชายได้มาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยที่ดวงตาก็ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนเดิม ครอบครัวจึงได้ทำการย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่โรงเรียนแห่งใหม่ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของโรงเรียนเดิม



ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครู และผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี ได้นำเงิน 7 หมื่นบาท มามอบช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่จากการพูดคุยการเยียวยาดวงตาของลูกชาย และอนาคตในวันข้างหน้า ครอบครัวได้เรียกร้องเรียกเงินค่าเยียวยาไปจำนวน 3,000,000 บาท แต่ทางโรงเรียน และผู้ปกครองคู่กรณี ยังไม่ตอบรับข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอ้างว่าสาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุเด็กเล่นกันเอง



ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุ ทางคณะครูและโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสอบถามอาการไปยังผู้ปกครองของเด็กอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด เพราะถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในโรงเรียน จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ แต่มันก็เป็นอุบัติเหตุที่นักเรียนหยอกเล่นกันจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคณะครูก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขนาดนี้ โดยเบื้องต้นทางโรงเรียนได้มีการช่วยเหลือไปแล้วประมาณ 70,000 บาท และจากการพูดคุยกับครอบครัวของเด็กที่บาดเจ็บ ได้มีการยื่นข้อเรียกร้องขอเงินเยียวยาจำนวน 3 ล้านบาท โดยขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ เนื่องจากทางผู้ปกครองเด็กคู่กรณียินยอมที่จะเยียวยาให้จำนวน 2 แสนบาท จึงต้องหาคนกลางมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย



ด้านผู้ปกครองของเด็กชายบี (นามสมมุติ) เด็กที่เอาดินสอแทงตา เปิดเผยว่า ในช่วงขณะเกิดเหตุ มีเด็กนักเรียนอยู่ในห้องจำนวน 8-9 คน และได้เรียนหนังสือ รวมถึงหยอกล้อเล่นกันจึงทำให้มีการบาดเจ็บ โดยตนมองว่าลูกชายของตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายเพราะเป็นอุบัติเหตุ และครอบครัวของตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวของตนก็ทำงานหาเช้ากินค่ำ เบื้องต้นทางครอบครัวได้มอบเงินช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 35,000 บาท รวมกับเงินจากทางโรงเรียนอีกจำนวน 35,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท แต่ทางครอบครัวคู่กรณียังเรียกร้องเงินเงินค่าเยียวยาอีก 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไป ทั้งนี้หากพูดคุยตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามคดีความในชั้นศาลต่อไป