สังคม
ลูกศิษย์ออกโรงปกป้อง ครูบาชื่อดังขอนแก่น ไม่เชื่อมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย
10 ม.ค. 2566
1.9K views
ความคืบหน้ากรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่า มีอดีตโยมอุปัฏฐากพระเกจิชื่อดังจังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชาย ที่ระบุว่าเป็นพระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าว มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดป่าแห่งหนึ่ง บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อขอพบกับครูบาชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดป่า แต่พบเพียงพระลูกวัดและญาติโยม ที่กำลังถวายภัตตาหารเพลอยู่ที่วัด โดยบอกว่า ครูบา ติดกิจนิมนต์อยู่ ยังไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน โดยบรรยากาศมีชาวบ้านมาทำบุญตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ไม่มีครูบามารับภัตตาหารเพลในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนยืนยันว่าไม่ใช่ครูบา และในภาพก็ไม่รู้ว่าเป็นขาใคร เพราะขาของครูบาจะมีรอยสัก และนิ้วมือ รวมทั้งผิวพรรณก็ไม่ใช่
ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ พระสหธรรมิก ยืนยันว่า ส่วนตัวหลังจากที่ดูภาพ บอกคำเดียวว่าไม่เชื่อ 1,000,000% ยังไงก็ไม่ใช่ครูบา ดูจากผิวพรรณ ขา และมือ ก็ไม่ใช่ครูบา และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบา เพราะรู้จักกับครูบามานาน ตั้งแต่เริ่มมาสร้างวัดก็มาอยู่ด้วยกัน ส่วนรอยสักที่ข้อเท้า ครูบาก็สักมานานแล้ว เป็นรูปพญานาค ส่วนภาพที่มีการแชร์กันในโซเชียลนั้นไม่มีรอยสัก ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ปล่อยเป็นเวรเป็นกรรมแล้วแต่ใครจะเชื่อไม่เชื่อ ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว รับกรรมไป
รวมทั้งในส่วนของญาติโยม กรรมการวัด ซึ่งทุกคนต่างไม่เชื่อ คิดว่าเป็นการใส่ร้ายจงใจมาทำลายศาสนา 100% เพราะสิ่งที่กระทำขึ้นนั้น ไม่ใช่การปกป้องศาสนา แต่เป็นการจะทำร้ายศาสนา โดยเฉพาะครูบาเอง ซึ่งการกระทำแบบนี้ ใครก็ทำได้เอาภาพใครมาใส่ก็ได้ เอาผ้าเหลืองมาปูก็ได้ เพราะผ้าเหลืองหาซื้อตามร้านทั่วไปได้ง่าย ทุกวันนี้มันสามารถตัดต่อกันได้ง่าย สารพัดที่จะทำการ หากตั้งใจจะทำลายพระพุทธศาสนาแล้ว
ด้านพระจริยวัฒน์ของครูบานั้น ท่านเป็นคนประพฤติดีประพฤติชอบมาโดยตลอด เจริญรอยตามพ่อแม่ครูบาอาจารย์พาลูกศิษย์ทำบุญทำวัดสวดมนต์ ซึ่งท่านก็ปฏิบัติตนรับแขกปกติของพระสงฆ์ ส่วนผู้ใกล้ชิดญาติโยม โดยเฉพาะบุคคลที่กล่าวหาว่าตัวเองเป็นโยมอุปัฏฐากนั้น เท่าที่เห็นก็มาอยู่ที่วัดประมาณสองปี มีบุญมีงานก็จะมาร่วมก็จะเห็นสองคนนี้ ในช่วงที่มาอยู่สองปียืนยันว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ 1,000,000% และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบาไก่ และโยมอุปัฏฐากก็ต้องพาไปนู่นไปนี่ได้พาไปกิจนิมนต์ ถวายข้าวถวายน้ำเหมือนพ่อแก่แม่เฒ่าที่เป็นโยมอุปัฏฐากคนอื่นๆ และเรื่องนี้ทุกคนที่อยู่วัดญาติโยมต่างๆก็สงสัยว่าสองคนนี้เข้ามามีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ด้าน นายสุรพล อายุ 66 ปี ที่เดินทางมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อเด็ดขาด บอกคำเดียวได้ว่าไม่เชื่อ ไม่เป็นความจริง ขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง ส่วนตัวดูแล้วว่าสองคนที่กล่าวหานั้นไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก ตนเองเคยพูดคุยเป็นเพียงคนมาทำบุญเหมือนคนอื่นๆทั่วไป สิ่งที่กล่าวหาครูบานั้น คิดว่าจงใจหวังทำลายพุทธศาสนา โดยเฉพาะครูบาอย่างชัดเจน เรื่องที่ทำขึ้นมานั้นไม่ได้เป็นความจริงแม้แต่น้อย ทั้งรอยสัก ซึ่งครูบาสักมานานแล้ว แต่ในภาพไม่มีรอยสัก ผิวพรรณนิ้วมือ ถ้าเป็นญาติโยมที่รู้จักมักคุ้นก็จะรู้ว่าไม่ใช่ผิวพรรณหรือนิ้วมือของครูบา
พระครูบาเป็นคนมีเมตตา ใจดีนิสัยดีพาญาติโยมทำวัตรเป็นผู้ปฏิบัติดีด้วย ท่านไม่เคยรังเกียจใคร สายบุญที่มาต้อนรับหมด แต่จะมีสายบุญที่มาหวังผลประโยชน์มาหวังเอาทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งมีเข้ามาเรื่อยๆ แต่ท่านครูบาทราบก็ไม่ว่าอะไร เมตตาทั้งหมด ทั้งกรรมการวัดญาติโยมทั้งหมดต่างแปลกใจว่าทำเรื่องดังกล่าวต้องการอะไร ทั้งที่พระครูบาเมตตาทุกสิ่งทุกอย่าง อยากจะฝากถึงคนที่จ้องทำลายครูบา หรือพุทธศาสนาขอให้หยุดเพราะบาปบุญมีจริง เวรกรรมมีจริง ถ้าหากยังไม่หยุดชาวบ้านทุกคนก็พร้อมจะออกมาปกป้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ขณะที่ นางมะลิ อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำอีกคน กล่าวว่า เรื่องการทำเหรียญวัตถุมงคลนั้น ผู้ที่กล่าวหาไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก เป็นคนที่มาทำบุญเหมือนคนอื่นๆทั่วไป และเรื่องวัตถุมงคลที่ทั้งคู่ทำขึ้นมานั้น ทำจำนวนสามครั้ง เงินต่างๆ ที่ได้มาครั้งละ 1,000,000 แต่เงินไม่เคยถึงวัดหรือนำมาทำบุญ ในเรื่องที่กล่าวหาครูบานั้น ทั้งเรื่องภาพเรื่องแชต เรื่องที่นำเงินบริจาคไปให้กับผู้ชายหรือผู้หญิงนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง