ไล่ล่าจับหนุ่มซิ่งกระบะแหกด่านข้ามจังหวัดกว่า 100 โล อ้างคิดว่าตำรวจโบกให้ไป

เวลา 03.10 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.สนิท ชูแจ่ม รอง สวป. สภ.เมืองพัทลุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย นำรถตำรวจ 191 ปิดถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งขาขึ้น ในท้องที่หมู่ที่ 2 ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง หลังได้รับประสานจากตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ สภ.หาดใหญ่ ให้ช่วยสกัดรถยนต์กระบะมีรั้ว ไม่สวมป้ายทะเบียน หลังแหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้รถยนต์สายตรวจ 2 คัน ขับไล่ติดตามมาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ผ่าน อ.รัตภูมิ เข้า จ.พัทลุง ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร



โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง สามารถสกัดจับไว้ได้ พร้อมเข้าควบคุมตัว นายอนุพงษ์ อายุ 30 ปี คนขับรถ ซึ่งพูดจาคล้ายคนเมา เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าหนีจุดตรวจทำไม นายอนุพงษ์ อ้างว่าตำรวจโบกรถให้เข้าเลนซ้ายและให้ไป ตนจึงเร่งเครื่องออกมาเลย ไม่ได้หนี



เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณหลังกระบะ พบว่าบรรทุกหอยลาย น้ำหนักกว่า 2 ตัน มาเต็มคันรถ ภายในรถเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงขวดน้ำต้มพืชกระท่อม พร้อมหม้อต้ม โดย นายอนุพงษ์ ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด



นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ได้ขับรถกระบะไปรับหอยลายมาจากด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ขับรถเข้าด่านตรวจ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่โบกให้จอด แต่เข้าใจว่าตำรวจโบกให้ไป จึงขับออกจากด่านตรวจ



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า หลังจาก นายอนุพงษ์ ออกจากจุดตรวจ ได้เร่งเครื่องหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัย จึงรีบไล่ติดตามมา เปิดเสียงไซเรน และใช้ไมค์โครโฟนบอกให้จอด แต่นายอนุพงษ์ ก็ไม่ยอมจอด ก่อนจะขับรถไล่ล่ามาถึงช่วงเขตรอยต่อระหว่าง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และอ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดย นายอนุพงษ์ ได้ขับรถย้อนศรสวนเลนขึ้นมา เป็นระยะทางกว่า 5 กิโล และได้เบียดชนกับรถของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย และเลี้ยวเข้าไปภายในซอยหมู่บ้าน ก่อนจะตีรถออกมายังถนนสายเอเชีย ด้วยความเร็วรถอยู่ที่ 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับมุ่งหน้าเข้ามายังเขตเทศบาลเมืองพัทลุง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ปิดถนนสกัดจับไว้ได้



ทั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจ นำตัวนายอนุพงษ์ ไปสอบปากคำและตรวจสารเสพติดที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และตรวจสอบภายในรถโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป