สังคม
อุบัติเหตุหรือประมาท? ผบ.ทรภ.1 ตั้งคณะกรรมการสอบ 'ผู้การเรือหลวง' พร้อมรับผิด หากพบมีความผิดร่วมด้วย
26 ธ.ค. 2565
47 views
จากกรณี วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเวลา 17.16 น. มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ต่อมาเครื่องไฟฟ้าดับ จนเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนเรือเอียงในเวลาต่อมา จนเมื่อเวลา 23.46 น. วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำ และอับปางในที่สุด ทั้งนี้ มีกำลังพลทั้งหมดบนเรือ 105 นาย
วานนี้ (25 ธ.ค. 65) การช่วยเหลือกำลังพล สรุปได้ดังนี้
- ช่วยได้ 76 นาย
- เสียชีวิต 18 นาย (ยืนยันตัวตนได้แล้ว 7 นาย ยังอยู่ระหว่างยืนยันตัวตน 11 นาย)
- สูญหาย 11 นาย
ทั้งนี้ ถ้าไล่เรียงตามวันในการค้นหา จะสามารถไล้เรียงได้ ดังนี้
- 21 ธ.ค. 65 : พบ 6 ราย
- 23 ธ.ค. 65 : พบ 1 ราย
- 24 ธ.ค. 65 : พบ 8 ราย
- 25 ธ.ค. 65 : พบ 3 ราย
-------------
วานนี้ (25 ธ.ค. 65) พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาทัพเรือภาค 1 แถลงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้สูญหายเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่มกลางทะเล ในเวลา 19 นาฬิกา 30 นาที ยืนยันว่า ภารกิจวันนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมกับเมื่อวานนี้อีก 8 ราย เป็น 11 ราย
ซึ่งอยู่ระหว่างรอตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล โดยนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ที่มาตั้งศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์ ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันนี้ (26 ธ.ค. 65) กำลังทางเรือและอากาศยาน ยังคงปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่ที่รับมอบหมายอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง พร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาดที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยคำนวณจากทิศทางลมและกระแสน้ำ
ผบ.ทรภ.1 กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติที่ผ่านมา การดำเนินการของหมู่เรือช่วยเหลือที่ 1 สามารถดำเนินการได้ตามแผน ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือที่ 2 ประสบปัญหาคลื่นลมแรง ไม่สามารถปฏิบัติได้ จากการพยากรณ์อากาศพบว่าพรุ่งนี้คลื่นลมจะมีความรุนแรงมากขึ้น อาจไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ผบ.ทรภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้แนวการลาดตระเวนพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ทุกพื้นที่ชายฝั่ง ทุกเกาะได้ขึ้นสำรวจทั้งหมด โดยเร่งสำรวจพื้นที่แข่งกับเวลา
กรณีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลนั้น ผบ.ทรภ.1 กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการแล้ว และมีการตรวจสอบคู่ขนานไปกับการค้นหาผู้สูญหาย ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังไม่ได้ติดตามความก้าวหน้าในตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมาทุ่มสรรพกำลังในการค้นหาผู้สูญหายก่อนเป็นสำคัญ แต่การสอบสวนได้ดำเนินการควบคู่กันไป โดยมุ่งเน้นและบอกให้ยึดมั่นถึงข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ ใครผิดว่ากันไปตามผิด หากใครผิดพลาดตรงไหนให้รับผิดในส่วนนั้นไป
ส่วนผู้การเรือหลวงสุโขทัย ในฐานะผู้ควบคุมสั่งการเรือ ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเช่นเดียวกัน เพราะในการเดินแต่ละครั้ง ผู้การเรือ ถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกเรือ หรือ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ก็จะต้องฟังคำสั่งของผู้การเรือ เท่านั้น
ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 บอกด้วยว่า ตัวเอง ในฐานะผู้ดูแลเรือหลวงทั้งหมด หากกระบวนการสอบสวน พบว่า มีความผิดร่วมด้วย ก็พร้อมที่จะรับผิด ขณะเดียวกันยังบอกด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นความจริงถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนตัวพูดความจริง ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริงมาโดยตลอด
ส่วนประเด็นที่ญาติของผู้สูญหาย รวมถึงสังคมคาใจ กรณีผู้การเรือหลวงสุโขทัย ไม่ยอมนำเรือเข้าจอดเทียบท่า จนเกิดเหตุขึ้น เป็นอุบัติเหตุหรือความประมาท ประเด็นนี้ ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 ไม่ขอตอบคำถาม พร้อมระบุว่า ให้รอผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
“ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอุบัติเหตุ หรือความประมาทนั้น สำหรับเรื่องนี้ผมยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากไม่ใช่คนที่ตัดสินใจในขณะนั้น เชื่อว่าวิจารณญาณของผู้การเรือทุกนายไม่ใช่อยู่ๆ จะมาเป็นกันได้ โดยเฉพาะผู้การเรือชั้น 1 ชั้นยศนาวาโท และเป็นเรือที่มีคุณค่าทางยุทธการของกองทัพเรือค่อนข้างสูงมากๆ ผมเคารพการตัดสินใจของผู้การเรือ” ผบ.ทรภ.1 กล่าว
----------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/awpxHeWxzho