สังคม

เปิดการท่องเที่ยว ทะเลหมอกสองแผ่นดิน จ.แม่ฮ่องสอน หลังการผ่อนปรน ไทย-เมียนมา

โดย panwilai_c

25 ธ.ค. 2565

440 views

ทะเลหมอกสองแผ่นดินกลอเซโล ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่ อบต.แม่สามแลบ คาดหวังให้เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเห็นความสำคัญของลุ่มน้ำสาละวินที่ผ่านการต่อสู้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ได้ในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งขบวนการค้าไม้สัก การสร้างเขื่อน และโครงการผันน้ำยวมที่กำลังผลักดัน รวมถึงการสู้รบชายแดน จึงคาดหวังให้นักท่องเที่ยวร่วมรักษาความสมบูรณ์และสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในลุ่มน้ำสาละวินด้วย



Welcome to Kawthoole ยินดีต้อนรับสู่รัฐกะเหรี่ยง ป้ายข้อความที่มองเห็นโดดเด่นจากฝั่งไทย ตรงข้ามแม่น้ำสาละวิน บ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลังสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา จากฐานทหารเมียนมาที่ถูกทหารกะเหรี่ยง KNU บุกยึดมาได้ ทำให้พื้นที่ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ เงียบสงบขึ้น



แม้ยังมีการสู้รบภายในรัฐกะเหรี่ยง แต่การสร้างความเชื่อมั่นตามแนวชายแดนแม่น้ำสาละวิน และการประสานความมั่นคงทั้งของไทย-เมียนมา-และกะเหรี่ยง ทำให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนบ้านแม่สามแลบเพื่อให้ประชาชนสองฝั่งได้ทำการค้า และเปิดการท่องเที่ยวบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ให้กลับมากปกติได้แล้ว



บ้านแม่สามแลบ เป็นท่าเรือสำคัญในลุ่มน้ำสาละวิน และเป็นศูนย์กลางการท่องที่ยวของตำบลแม่สามแลบ การเปิดจุดผ่อนปรนการค้า ทำให้ร้านค้ากลับมาค้าขายได้ปกติ และสามารถใช้เรือเดินทางได้สะดวกขึ้น



โดยเฉพาะการเดินทางไปทะเลหมอกสองแผ่นดิน บ้านกลอเซโล และบ้านบุญเลอ ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ นอกจากการเดินทางทางบกแล้ว



ยังสามารถเดินทางทางเรือจากท่าเรือบ้านแม่สามแลบ ชมความงามแม่น้ำสาละวิน ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ระหว่างทาง จะเห็นความสวยงามของแม่น้ำสาละวิน ที่ยังอุดมสมบูรณ์ แม้กระทั่งในช่วงน้ำลด สองข้างทางจะเห็นแก่งหิน ผาหินที่เหมือนปราสาทหิน ที่นักโบราณคดีเห็นว่าเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เพราะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการค้นพบถ้ำผีแมน พบโครงกระดูกมนุษย์ และสัตว์ที่มีอายุนับหมื่นปี ในจำนวนนั้นมีสัตว์หิมาลัย ซึ่งแม่น้ำสาละวินก็มาจากเทือกเขาหิมาลัยด้วย กลายเป็นเส้นทางธรรมชาติที่น่าสนใจของโลก และต้องขอบคุณที่ช่วยกันรักษาระบบนิเวศ ที่สำคัญนี้ไว้



บ้านสบเมย จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำเมย จนกลายเป็นจุดชมวิวแม่น้ำสองสี ที่บ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน แห่งนี้ เกือบจะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำยาวไปถึงบ้านแม่สามแลบ หากมีการสร้างเขื่อนฮัตจี ได้สำเร็จ แต่ด้วยพลังการต่อสู้ของชาวบ้านลุ่มน้ำสาละวินตลอดเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังรักษาความงดงามขอบ้านสบเมยไว้ได้ กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้ชุมชน แต่ยังต้องต่อสู่กับโครงการผันน้ำยวม ที่จะผันน้ำจากสาละวินไปยังเขื่อนภูมิพล ที่จะส่งผลต่อระบบนิเวศของลุ่มน้ำสาละวินด้วย



ภาพสบเมย มองจากม่อนเดียวดาย บ้านบุญเลอ จุดชมแสงสุดท้าย และทะเลหมอกสองแผ่นดิน จึงเป็นสิ่งที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อยากให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาชมความงดงามธรรมชาตินี้ ได้เห็นความสำคัญของลุ่มน้ำสาละวิน ที่หากไม่รักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ ก็ไม่สามารถมีทะเลหมอกที่งดงามให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้



ลุ่มน้ำสาละวิน ที่มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า มีการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม แต่ก็เป็นเพียงฉากหลัง ที่มิอาจหลงลืมได้ว่าเบื้องหน้าแม่น้ำสาละวิน ในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ยังมีสงครามการสู้รบ ยังมีผู้อพยพ ผู้ลี้ภัยอีกนับแสนนับล้านคน ที่ยังเผชิญชะตากรรม จนกว่าจะพบสันติภาพที่แท้จริง จึงเป็นอีกสิ่งที่เราต้องไม่ลืมหลังได้ถ่ายภาพกับความงดงามของทะเลหมอกสองแผ่นดินแห่งลุ่มน้ำสาละวิน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ