สังคม

ผอ.รพ.กระบี่ แจง ปมหนูน้อยวัยเดือนเศษ ชี้ไม่ได้ป่วยหนักเพราะกินคาลาไมน์ ส่วนจ่ายยาผิดกำลังตรวจสอบ

โดย parichat_p

24 ธ.ค. 2565

218 views

ผอ.รพ.กระบี่ แจงแล้ว กรณีรพ.จ่ายยาผิดให้เด็กชายวัยขวบเศษ ไม่ได้ป่วยหนักเพราะกินคาลาไมน์ ส่วนการจ่ายยาผิดพลาดกำลังตรวจสอบ


กรณีแม่ของเด็กชายวัยเดือนเศษ ที่ จ.กระบี่ ออกมาร้องเรียนว่า ลูกชายป่วยเข้าไปรับการรักษาที่ รพ.ประจำอำเภอใน จ.กระบี่ แล้วทาง รพ.ให้ยาน้ำมากิน แปะฉลากข้างขวดว่าเป็นแคลเซี่ยม ใช้รับประทาน ก่อนจะนำยามาป้อนให้ลูกกิน จนมารู้ทีหลังว่าเป็นยาคาลาไมน์ ทำให้อาการทรุดหนักจนต้องเข้าห้องไอซียู


วันนี้ (24 ธ.ค.65) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สสจ.กระบี่ นพ.สุรัตน์ ตันติทวีวรกุล ผอ.รพ.กระบี่ รับมอบหมายจาก นพ.สินชัย รองเดช สสจ.กระบี่ แถลงชี้แจงกรณีดังกล่าว โดย นพ.สุรัตน์ กล่าวว่า กรณีเด็กวัยเดือนเศษที่เป็นข่าว จากการสอบถามทีมแพทย์ของ รพ.กระบี่ ที่ให้การรักษาทราบว่าจริง ๆ แล้วเด็กไม่ได้มีอาการหนักรุนแรงตามที่กังวล


โดยเด็กเข้ามารับการรักษาที่ รพ.กระบี่ ด้วยอาการถ่ายเหลว ทางทีมแพทย์ก็ให้การรักษาไปตามกระบวนการ คือให้ยาและน้ำเกลือ ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษา ตอนนี้เด็กก็อาการดีขึ้น หมอจึงต้องให้การรักษาโดยการให้ลองรับประทานนมดู ก็ดีขึ้นแล้ว และให้ทางทีมแพทย์อธิบายให้แม่ของเด็กเข้าใจแล้ว ส่วนที่บอกว่าเด็กต้องเข้าไอซียู สาเหตุเพราะที่หอผู้ป่วยเด็ก และผู้ป่วยทั่วไปอยู่ใกล้กัน


ทางทีมแพทย์จึงอยากให้แยกเด็กออกมาจากผู้ป่วยทั่วไป และให้มีการดูแลอย่างใกล้ชิด เด็กไม่ได้มีอาการหนักถึงขั้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นการเข้าห้องไอซียู ไม่ได้หมายความว่าเป็นอาการหนัก ส่วนการที่ต้องใช้เวลาในการรักษานานจนทางแม่เป็นห่วง เป็นเพราะการรักษาเด็กเล็กขนาดนี้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดี บางคนอาจต้องใช้เวลานาน 7-10 วัน โดยเฉพาะเด็กที่มีอาการป่วยในเรื่องลำไส้ ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนาน แต่ยืนยันว่าตอนนี้เด็กอาการดีขึ้นแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่ไหนแล้ว



ส่วนปัญหาอาการเรื่องลำไส้นั้น ทาง รพ.กระบี่ รับตัวเด็กมาตอนที่มีอาการท้องเสียมาก่อนแล้ว โดยคาดว่าน่าจะมีอาการท้องเสียมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่ รพ.ประจำอำเภอ หลังจากนั้นก็หายแล้วกลับบ้านได้ แล้วก็อาจจมีอาการอีกครั้ง จึงต้องให้กลับมานอน รพ.อีกครั้ง แต่จะเกี่ยวกับตัวยาคาลาไมน์หรือไม่ จากการตรวจสอบประวัติเด็ก พบว่าเรื่องการกินคาลาไมน์ น่าจะเกิดช่วงต้นเดือน แต่เด็กมานอน รพ.กระบี่ช่วงวันที่ 14 ธ.ค. เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่จะเป็นอาการต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนรักษาตัวที่ รพ.อำเภอหรือไม่ อันนี้ต้องแล้วแต่การดูแลรักษาในแต่ละที่


อย่างไรก็ตามตนสอบถามไปที่ รพ.รามาฯ กรณีการกินคาลาไมน์ ทางศูนย์รามาฯ ได้ข้อมูลว่า ปริมาณคาลาไมน์ที่จะก่อสารพิษได้ จะต้องเป็นปริมาณที่เยอะมาก อาจจะต้อง 2 ขวด จึงจะมีผลต่อร่างกาย แต่จากประวัติพบว่าแม่ให้ไปประมาณครึ่งซีซี หากคำนวนเป็นมิลลิกรัมถือว่าน้อยมาก น่าจะประมาณ 0.15 มิลลิกรัม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลเป็นพิษ



ในส่วนของการจ่ายยาของ รพ.ที่มีความผิดพลาด ตามกระบวนการจะมีขั้นตอนการจ่ายยา ที่ต้องตรวจสอบตัวยาก่อน รวมทั้งดูเรื่องฉลาก และการอธิบาย โดยต้องมีเภสัชกรรับรอง กรณีที่เกิดขึ้น จะเป็นการจ่ายยาที่ผิดพลาดหรือไม่ ตอนนี้ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ สสจ. ซึ่งต้องรอกระบวนการตรวจสอบก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News