ผู้ปกครอง แจ้งจับพระอนาจาร 3 เด็กชาย-หญิง คากุฎิ

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางไก่ (นามสมมุติ) ว่า เด็กชาย อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นหลาน รวมถึงเพื่อนชายอายุ 12 ปี และเด็กหญิงอายุ 9 ปี รวม 3 คน ถูกพระรูปหนึ่ง อายุ 51 ปี อยู่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในเขต ต.งิ้วด่อน อ.เมือง จ.สกลนคร ล่วงละเมิดทางเพศ ภายหลังเกิดเรื่อง ได้แจ้งต่อผู้นำชุมชน พร้อมกับแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสกลนคร ให้ดำเนินคดีต่อพระสงฆ์รูปดังกล่าว พร้อมกับนำเด็กทั้ง 3 คน ส่งตรวจร่างกาย ขณะนี้รอผลตรวจทางนิติเวช



ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าว พบเป็นสำนักสงฆ์ที่ไม่ใหญ่มากนัก ไม่พบพระสงฆ์รูปดังกล่าวอาศัยอยู่ มีการล็อกกุญแจตามประตูอาคารและเปิดไฟทิ้งไว้ สอบถามชาวบ้านทราบว่า แต่เดิมมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ 2 รูป ไม่นานมีหนึ่งรูปย้ายออกไป คงเหลือแต่พระสงฆ์หนึ่งรูปที่ถูกกล่าว แต่ไม่กี่วันแจ้งกับชาวบ้านว่า จะไปทำกิจของสงฆ์นอกพื้นที่ประมาณ 10 วัน จะกลับ แต่ตอนนี้ไม่ยังไม่กลับมา ภายหลังทราบเรื่องชาวบ้านต่างตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น เพราะพระดังกล่าวย้ายมาอยู่ประมาณ 5 ปี ก็เห็นเป็นพระพัฒนา จนชาวบ้านศรัทธา มีผู้มาทำบุญ เพื่อนำปัจจัยมาถวายสำนักสงฆ์อยู่เรื่อยๆ แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็อยากฟังความอีกฝ่ายว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องให้เจ้าหน้าที่สืบหาข้อเท็จจริงก่อน



ทั้งนี้จากข้อมูลเชิงลึกทราบว่า เด็กทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนกัน มีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับสำนักสงฆ์ โดยพฤติกรรมของพระสงฆ์ดังกล่าว เริ่มเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือน โดยเมื่อกลุ่มเด็กไปเล่นที่สำนักสงฆ์ ก็จะเรียกให้ไปพบโดยบอกว่าจะให้ขนมและซื้อโทรศัพท์ให้ ด้วยความอยากได้เลยไปหา แต่พอเข้าไปในที่ลับในสำนักสงฆ์ ก็ให้เด็กอมนกเขาและล่วงละเมิดทางเพศทางทวาร ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคนก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศเช่นกัน ทุกคนได้สิ่งของตอบแทน ช่วงแรกๆเด็กไม่กล้าบอกผู้ปกครองเพราะถูกข่มขู่ แต่หลังๆบ่อยครั้งเข้าจนเด็กทั้ง 3 คน ทนไม่ไหว เพราะเจ็บจากการกระทำ จึงตัดสินใจบอกผู้ปกครอง



พ.ต.อ.เศกสรร สุขประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรสกลนคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร กล่าวว่า ภายหลังรับแจ้งความเมื่อสัปดาห์ก่อน และมีการสอบสวนพร้อมทีมสหวิชาชีพและรวบรวมหลักฐานมีมูลความผิด จึงนำหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดสกลนคร และออกหมายจับในวันนี้ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งจากการรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้รับทราบแล้ว พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล จึงกำชับสั่งการให้ดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะทำให้ศาสนามัวหมอง