สังคม

'ชูวิทย์' เป่านกหวีด ชูใบแดงไล่ 'บิ๊กจ้าว' ออกจากตำแหน่ง พร้อมแฉเส้นทางการเงินผับจินหลิงโยงตู้ห่าว

โดย chiwatthanai_t

22 ธ.ค. 2565

119 views

ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง คดีนายตู้ห่าว เเละกลุ่มทุนจีนสีเทา วันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เเถลงเปิดข้อมูลเบื้องลึกอีกครั้ง เป่านกหวีด-ถือใบแดง ไล่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกจากตำแหน่ง พร้อมเปิดหลักฐานเส้นทางการเงินผับจินหลิงว่าเชื่อมโยงไปถึงบริษัทของตู้ห่าว ซึ่งนายชูวิทย์ระบุว่า เป็นการฟอกเงินชัดเจน แต่กลับไม่ดำเนินคดี


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมเดวิส เป็นรอบที่ 6 เกี่ยวกับการทำคดีนายตู้ห่าวของ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยบอกว่าจะต้องเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะการทำงานในคดีผับจินหลิงมีพิรุธ จึงต้องไล่ออกเท่านั้น โดยอ้างว่า หลัง 3 ทุ่มเมื่อคืนนี้ มีคณะพนักงานสอบสวนคดีผับจินหลิงคนหนึ่ง ส่งข้อมูลสำคัญให้ ซึ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พยายามจะอำพรางคดีนี้ โดยไม่แจ้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน


จากนั้นนายชูวิทย์ ได้เปิดคลิปที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่ง พันตำรวจเอกสมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำม้วนกระดาษม้วนหนึ่งที่เป็นหลักฐานในคดีมามอบให้ นายชูวิทย์ บอกว่าม้วนที่เห็นนั้น ก็คือ 'เส้นทางการเงินของผับจินหลิง'


และกางชาร์ตดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวดู โดยบอกว่าบัญชีคิวอาร์โค้ดของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบุคคล 2 คน คือ นายฟูจิ และนายหยางเฉิน ซึ่งทั้ง 2 คน มีการโอนเงินจากการค้ายาเสพติดกันไปมา และโอนเข้าออกบัญชีคิวอาร์โค้ดผับจินหลิง จากนั้นนายหยางเฉิน ได้โอนเงินต่อให้ นายเซนดิ แล้วนายเซนดิ ได้โอนต่อให้บัญชีม้า ที่ชื่อนายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง และเงินจากบัญชีม้านี้ ก็ได้โอนต่อไปยังบริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีชื่อนายตู้ห่าวถือหุ้นอยู่ 51% ทำให้เห็นว่าเส้นทางการเงินของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบริษัทของนายตู้ห่าว ที่เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย เป็นการทำเงินจากยาเสพติด ให้กลายเป็นเงินขาวสะอาดเข้าข่ายการฟอกเงิน


ซึ่งปัจจุบันพบว่า นายฟูจิ และนายเซนดิ ถูกจับกุมอยู่ที่ ตม. แต่นายหยางเฉิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญหลบหนีไปได้ พร้อมตั้งคำถามว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้นำตัว นายสิทธิพงษ์ ซึ่งเป็นบัญชีม้ามาสอบปากคำแล้วหรือไม่


นายชูวิทย์ ยังกล่าวหาว่า การที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน เป็นเพราะมีหลักฐานชิ้นนี้ ซึ่งสามารถเอาผิดนายตู้ห่าวได้อย่างแน่นอน จึงหันไปดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดแทน เพราะพยานหลักฐานอ่อน เนื่องจากทำลายพยานหลักฐานไปหมดแล้ว


และพรุ่งนี้ (23 ธ.ค. 65) นายชูวิทย์ จะนำหลักฐานทั้งหมดที่มีไปให้ถ้อยคำกับอัยการที่สำนักงานอัยการตลิ่งชัน เนื่องจากคณะทำงานของอัยการสูงสุด ได้เรียกให้เข้าไปข้อมูลด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News