ขันธ์ 5 มาจะหย่าให้! ผัวใจเด็ดพาเมียน้อยมาขอขมาเมียหลวง อยากได้ก็เอาไป ยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่กลับไป

อดีตภรรยาหลวงเดือด จับได้ว่าอดีตสามีแอบคบชู้กับเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่ยังตั้งท้อง สุดท้ายให้ยกขันธ์ 5 มาขอขมาตนกับลูก และพร้อมตัดใจยอมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ยันสิ่งที่ทำเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนและลูก



กลายเป็นเรื่องที่ถูกแสดงความคิดเห็นอย่างมากในสังคม เมื่อหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตเมียหลวง โพสต์ข้อความและรูป ที่อดีตสามีและหญิงอีกคน ยกขันธ์ 5 มาขอขมา



โดยในโพสต์ระบุว่า ในเมื่อกูก็รักมาก ในเมื่อมึงอยากจากไปกับคนอื่น ก็แค่ยกขันธ์ 5 มาขอขมา ไปดี ๆ อย่าสวมเขากู กล้ายกขันธ์ 5 มาขอโทษกูกับลูกกู ก็กล้ารับปากว่าจะปล่อยพวกมึงไป ปิดตำนานเมียหลวง



วันนี้ที่กูรอคอย มานานแสนนาน นี่คือโพสต์สุดท้ายที่กูจะกล่าวถึงพวกมึง นับจากวันนี้เป็นต้นไป ลูกจะตัดขาดจากพ่อทุกช่องทาง ต่างคนต่างอยู่ รุปนี้กูสัญญาจะเก็บไว้ให้ลูกดู ครั้งหนึ่งชีวิตกูแม่งโคตรเหมือนละคร

นอกจากนี้ยังมีคลิปติ็กตอก โดยในคลิป จะเห็นอดีตสามี ได้มาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นแฟนใหม่ ยกขันธ์ 5 มาขอขมาอดีตภรรยา โดยที่อดีตภรรยาอุ้มลูกน้อยวัย 2 เดือนเศษอยู่แนบอก โดยอดีตภรรยาได้ถามอดีตสามีว่าวันนี้มาทำอะไร ซึ่งอดีตสามีได้พูดว่ามาขอโทษกับสิ่งทีทำได้ทำชั่วไว้




ทีมข่าวได้พูดคุยกับอดีตภรรยาหลวง ซึ่งชื่อว่า คุณใหม่ โดยคุณใหม่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนได้รู้จักกับ อดีตสามี ผ่านทางแอบพลิเคชั่้น เมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 2564 โดยตนทำงานเป็นพนักงานขายโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดศรีษะเกษ ส่วนอดีตสามี เป็นเซลล์ขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี



จากนั้นทั้งตนและอดีตสามีก็ได้ตกลงที่จะสานสัมพันธ์ต่อกัน โดยตอนยอมรับว่าตกหลุมรักอดีตสามีตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเพราะเป็นผู้ชายที่อบอุ่น พูดจาไพเราะ

จนกระทั่งวันที่ 8 กุมพาพันธ์ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจจัดพิธีหมั้น โดยมีพ่อแม่ของตนและของอดีตสามีมาร่วมงาน และ ในวันที่ 9 กุมพาพันธ์ จึงไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตสามี และหลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านของตน ที่อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีษะเกษ



ต่อมาตนเริ่มรู้สึกว่าอดีตสามีมีพฤติกรรรมผิดปกติ เหมือนกับว่าแอบคบกันคนอื่นอยู่ จึงตัดสินใจเช็คโทรศัพท์ จึงพบว่าอดีตสามี ได้บล้อคไลน์ ผู้หญิง 1 คน เมื่อตนสอบถาม อดีตสามีก็อ้างว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน สาเหตุที่บล้อคเพราะไม่อยากให้ตนไม่สบายใจ เพราะต้องคุยเรื่องงานกันบ่อย และกลัวตนจะคิดมาก



แต่ตนไม่เชื่อจึงพยายามหาทางเข้าดูเฟซบุ๊กของผู้หญิงคนนี้ ก็พบว่ามีความผิดปกติ อย่างเช่น หากสามีตนบอกว่าออกไปธุระที่ศาลากลาง ผู้หญิงคนนี้ก็จะโพสต์เฟซบุ้กว่าอยู่ที่ศาลากลาง ทำให้ตนมั่นใจว่า ทั้งสองคนน่าจะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยมากกว่าเพื่อนร่วมงาน และหลังจากนั้นก็มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยขึ้นเพราะความหึงหวงของตน



จนสุดท้ายวันที่ 6 กันยายน ตนจึงตัดสินใจหย่ากับอดีตสามี ซึ่งตอนนั้นตนตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจหย่าเพื่อความสบายใจ แต่ในใจลึกๆ ก็ยังคิดว่าจะให้โอกาสสามีเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นและกลับมารักกันเหมือนเดิม



แต่เรื่องกลับเลวร้ายมากขึ้น เพราะฝ่ายหญิง ได้เริ่มโพสต์รูปของเขากับอดีตสามีซึ่งถ่ายรูปด้วยกัน เหมือนเป็นการประกาศว่าทั้งสองคนนี้คบหาดูใจกัน

และจุดแตกหักที่ทำให้ตนมั่นใจว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง คือวันที่ 30 กันยายน ซึ่ฝ่ายหญิงได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ้ก โดยข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่อดีตสามีของตนไปอวยพรวันเกิดให้ โดยในข้อความระบุว่า ขอให้มีความสุข ขอให้เป็นคดนดีคนที่น่ารักของเค้าตลอดไปนะ ถึงวันเกิดเธอจะไม่มีเค้าอยู่ด้วยในปีนี้ แต่ในปีหน้าเราคงได้อยู่ด้วยกัน เค้ารักเธอมากนะ ใครคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้เธอ รักเธอนะเบิดเดย์ค้าบ



ตนจึงตัดสินใจไปเคลียร์กับฝ่ายหญิงถึงที่ทำงาน และได้มีปากเสียงกัน จนสุดท้ายตนกระชากหัวฝ่ายหญิงไป 1 ครั้ง จนหัวหน้างานของฝ่ายหญิงต้องเข้ามาห้าม



สุดท้ายฝ่ายหญิงยอมรับว่าคบกับอดีตสามีของตน แต่อ้างว่าคบกันหลังจากที่ตนจดทะเบียนหย่าแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง



ทั้งนี้หัวหน้างานของฝ่ายหญิง ได้มาบอกกับตนว่า อดีตสามีของตนกับลูกน้องแอบคบหากันนานแล้ว ทางหัวหน้าก็เรียกทั้ง 2 คนไปตักเตือนแต่ก็ไม่ยอมฟัง จนถึงขนาดให้ทั้งคู่ ท่องศีล 5 ให้ฟังต่อหน้า แต่ทั้ง 2 คนก็ไม่ยอมหยุดที่จะคบกัน จนสุดท้ายหัวหน้างานต้องไล่อดีตสามีตนออก



ทั้งนี้ตนจึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอให้อดีตสามีและฝ่ายหญิง 3 ข้อ คือ ข้อแรก มาตีกันเพื่อเป็นการแก้แค้น  ข้อสองถ้าบริสุทธิ์ใจก็ยินยอมให้ฟ้องร้อง และข้อสามคือถือขันธ์ 5 มาขอขมาตนกับลูก

ขณะเดียวกันทางด้านของอดีตภรรยาได้มาเปิดใจในรายการโหนกระแส วันนี้ (22 ธ.ค.) กับพิธีกรรายการ หนุ่ม กรรชัย ว่า ที่ตนสงสัยว่าแอบคบชู้เพราะเขาบล็อกไลน์ผู้หญิงคนนี้ เพราะปกติเขาไม่บล็อกใคร เราจึงถามออกไป หลังจากนั้นลองเสิร์ชชื่อดูก็เจอในเฟซบุ๊กของผู้หญิง เราก็ตามมาตลอด บางครั้งเราเห็นว่าผัวเรามีการโพสต์แบบอกหักแต่เหมือนบอกเมียไม่ได้

จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ค. เขาบอกว่าจะกลับบ้าน ที่ต่างจังหวัด มีเพื่อนไปด้วย ทั้งหญิงชาย คนอื่นเรารู้จักแต่มีผู้หญิงคนนึงที่เราไม่รู้จึงทักไปหาน้องสาวของเขาเลยว่าคือใคร แล้วเราก็ถามว่าใช่คนเดียวกับในเฟซบุ๊กนี้ไหม น้องสาวเหมือนรู้งานบอกว่าไม่น่าใช่คนเดียวกัน สงสัยว่าเป็นคนนี้จริงๆ แต่ภาพมันไม่ค่อยชัด ไม่อยากทะเลาะกับแฟน เพราะคิดว่าเขาคงไม่กล้าทำเพราะเราตั้งท้องด้วย แต่พอเรื่องผ่านไปก็ยังสงสัยผู้หญิงคนเดิมอยู่เพราะระแวงมาโดยตลอดเลย 

ต่อมาไปทำงานแล้วแฟนเลิกงาน เขาเลิก 5 โมงเย็น มาหาหนู เขาบอกว่าจะไปซื้ออะไรกินที่ศาลหลักเมือง ไปมาได้มาแค่น้ำแก้วเดียว เราเลยดูในโทรศัพท์ว่าอัปสตอรีว่าอยู่ศาลหลักเมือง จนมามีเรื่องแบบเขาดื่ม มีเรื่องก็ไม่ค่อยฟังกัน

ต่อมาเรา เห็นว่าเขาดื่มหนัก บอกว่าถ้าจะดื่มหนักรักเพื่อนขนาดนี้ เราลองหย่ากันไหม ช่วงแรกๆ กลัวเราว่าเราไม่อยากให้เขาดื่ม แต่หลังๆ คือทะเลาะกันเขาก็ไม่ฟัง

ตอนนั้นที่รู้ความจริงเราเห็ฯจากในโทรศัพท์ แล้สทักไปหาคนที่ทำงานของเขาคนหนึ่ง วาถ้าสงสารบอกเราหน่อยเขาคบชู้กันไหม เขาก็ตอบว่าใช่ เราวิ่งออกมากอดน้องสาวร้องไห้ เสียใจแทบล้มทั้งยืน แต่เราก็ทักไปหาผู้หญิง แอบเอาเบอร์ของผู้หญิงคนนั้นไว้จากโทรศัพท์สามีไว้ เราโทรฯ ไปเขาบล็อกหมดเลย ใข้โทรศัพท์อื่นโทรฯไป เขาก็บล็อก หมดเลย เราเลยบุกไปเลย เจอตัวผู้หญิงด้วย เขาทำงานอยู่กับผัวเรา แต่เพิ่งรู้ว่าที่ร้านเจ้าของนั้นไล่ผัวเราออกจากที่ทำงานแล้ว เพราะรับไม่ได้เพราะผัวเรากับผู้หญิงคนนั้นคบชู้กัน

สุดท้าย ทั้งคู่เลือกที่จะยกขันธ์ 5 มาขอขมา ซึ่งตนยอมรับว่าในตอนนี้ตนกับลูกได้รับความเป็นธรรมแล้ว ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตนโมโหจริง เพราะถูกสวมเขาทั้งที่ยังตั้งท้องลูกของอดีตสามี ยืนยันหลังจากนี้จะไม่กลับไปคืนดีและไม่ยอมให้อดีตสามีมาดูแลลูกอย่างเด็ดขาด