สังคม

‘ร้านค้า’ ยัน เรียกเงิน 2.5 หมื่น ให้ ‘แก๊งเด็กขโมยชาเขียว’ หลาบจำ ผอ.รร.จ่อแจงสพฐ.หาทางช่วย

โดย JitrarutP

15 ธ.ค. 2565

181 views

เจ้าของร้าน แจง กลุ่มเด็กขโมยของในร้านค้า ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้เรียกค่าเสียหาย จากเดิม 1 แสน ลดลงมาเหลือ 5 แสน  จนได้ข้อสรุปที่ 2.5 หมื่นบาท แค่อยากให้หลาบจำ ด้าน ผอ.รร.เข้าชี้แจง สพฐ.วันนี้ เตรียมหาทางช่วยเหลือ

พ่อเดือดร้อนหนัก ลูกชาย ม.1 ร่วมกับเพื่อน 4 คน ขโมยชาเขียว-ขนม ร้านค้าในโรงเรียน โดนเรียกคนละแสน บุกร้อง ปวีณา ขอให้ช่วยเพราะไม่มีเงินจ่าย ด้านเจ้าของร้านแจงเด็กกลุ่มนี้มาขโมยของหลายครั้ง ที่เรียกเงินเพราะต้องการให้หลาบจำ ขณะที่ ผอ.วันนี้เข้าแจง สพฐ.เพื่อหาทางช่วยเหลือ

จากกรณี นายดำ (นามสมมติ) ได้เดินทางมาร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า ตนเองทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ชลบุรี ส่วนลูกชาย ชื่อ ด.ช.เชน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี อาศัยอยู่กับยาย และเป็นนักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พะเยา ครูที่โรงเรียนโทรมาแจ้งพ่อ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ลูกชายร่วมกับเพื่อนรวม 5 คน ไปขโมยน้ำชาเขียว 4 ขวด และขนม 1 ห่อ จากร้านค้าในโรงเรียน และครูบอกนักเรียนให้มาแจ้งผู้ปกครองไปพบ ในวันที่ 9 ธ.ค. แต่ลูกกลัวจึงไม่กล้ามาบอกผู้ปกครอง ส่วนผู้ปกครองของเด็กอีก 4 คน ได้ไปพบครูตามนัด

ทางโรงเรียนแจ้งว่าร้านค้าต้องการเรียกร้องค่าเสียหายคนละ 1 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีกับเด็กๆ โดยทางโรงเรียนได้ช่วยเจรจาให้ชดใช้เหลือคนละ 5 หมื่นบาท และนัดให้ผู้ปกครองไปค่าเงินเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. มีผู้ปกครองเด็ก 4 คน กลัวว่าลูกๆ จะถูกดำเนินคดี และมีประวัติเสียหายจึงจะยอมจ่ายเงินตามนัด

ส่วนลูกของตนเพิ่งจะทำผิดเป็นครั้งแรก ตนไม่มีเงินที่จะไปชดใช้ และเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม มีการเรียกเงินที่เกินกว่าเหตุ จึงได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ

ด้าน นางปวีณา ได้เชิญ นายนิสิต เนินเพิ่มพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. เข้าร่วมประชุม กับผู้ปกครองเด็ก เพื่อหามาตรการด้านช่วยเหลือเด็กโดยด่วน

ต่อมา ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ พบกับเจ้าของร้านค้า น.ส.สเตฟานี่ หรือเสี่ยวผิง ได้นำภาพวงจรปิดมาให้ดู พร้อมกับเล่าว่า กลุ่มเด็กที่ก่อเหตุได้เข้ามาขโมยของที่ร้านมาแล้วหลายครั้ง โดยทำกันเป็นขบวนการ มีคนดูต้นทาง บังกล้องวงจรปิด แอบยื่นของ และซุกไว้ใต้เสื้อกันหนาว โดยเด็กเหล่านี้ รู้มุมกล้องเป็นอย่างดี

เช่นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เด็กกลุ่มนี้ได้เข้ามาขโมยของถึง 2 ครั้ง โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน

ครั้งแรกช่วงเวลา ประมาณ 8 โมงเช้า จากภาพจะเห็นว่า น้องเสื้อแดงเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้แช่ และเดินมาหลบมุมกล้องเอาขวดน้ำยัดใส่ในเสื้อกันหนาว ขณะที่น้องเสื้อเทา เดินไปหยิบขนม ในชั้นวาง ระหว่างนั้นได้เอาซองขนมยัดใส่เข้าไปในเสื้อ ส่วนน้องเสื้อดำ ไม่เห็นตอนหยิบของ แต่เห็นตอนเอาของใส่ไว้ในเสื้อ

ครั้งที่ 2 เวลา ประมาณ 9 โมงเช้า จากภาพจะเห็นว่า น้อง 2 คน เดินเข้ามาหยิบน้ำในตู้แช่ และ ขนม ก่อนที่จะซุกไว้ในเสื้อ จังหวะนี้ พนักงานร้านสังเกตเห็น และจับได้ว่าเด็กขโมยของ ซึ่งทางพนักงานของร้านได้จับตาสังเกตพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้มาโดยตลอด เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย. ทางร้านก็เคยจับได้ว่าขโมยน้ำหวานและขนม จนต้องเรียกเก็บเงินเท่ากับสินค้าที่ขโมยไป พร้อมกับนำตัวเด็กๆ ไปส่งให้ฝ่ายปกครองอบรมตักเตือนและหักคะแนนความประพฤติไปแล้ว แต่เด็กกลุ่มดังกล่าวยังกลับมาทำผิดซ้ำอีก ครั้งนี้จึงเรียกค่าเสียหาย เพื่อต้องการให้พวกเด็กๆ หลาบจำ ไม่มาขโมยของอีก

ด้าน นายจตุภูมิ แจ่มหม้อ ผอ.โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 คน ที่ทางร้านจับได้พร้อมหลักฐาน มี 3 คน และอีก 2 คน อยู่ระหว่างสอบสวน และเมื่อเช้านี้ได้เรียกผู้ปกครองทั้งหมดเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยเบื้องต้นทางร้านเรียกค่าเสียหาย รายละ 1 แสน ต่อมาเจรจากันเหลือ 5 หมื่น และต่อรองกันอีกครั้ง จนเหลือ 25,000 บาท ซึ่งผู้ปกครองเด็กทั้ง 3 ราย ยินดีจ่ายให้ เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ


จากนั้นเด็กรายที่ 4-5 ที่ร่วมอยู่ในกลุ่ม ได้เข้ามาพูดคุยเพียงคนเดียว ซึ่งหลังจากทางโรงเรียนและร้านค้าได้สอบถามแล้ว เด็กรายที่ 4 ไม่มีส่วนร่วม ส่วนผู้ปกครองเด็กรายที่ 5 ที่ไปร้องกับมูลนิธิปวีณาฯ ไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับทางร้าน ซึ่งยังอยู่ในการสอบสวนเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเรียกเงินใดๆ ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้พยายามติดต่อกับผู้ปกครองให้เข้ามาพูดคุยกันแล้ว แต่เขาไม่ขอเจรจาใดๆ จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้

จากเรื่องที่เกิดขึ้น ล่าสุดทาง ผอ.โรงเรียน วันนี้ได้เดินทางไปชี้แจงกับ สพฐ.พะเยา แล้ว เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเด็กที่ก่อเหตุ ตามที่พ่อมาร้องกับมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวานนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ