สังคม

หนุ่มวัย 26 ปี ฉุนโหด คนด่าเมีย ขับรถไล่ตาม กระทืบ ดับ 1 เจ็บสาหัส 1

โดย onjira_n

15 ธ.ค. 2565

2.8K views

วันที่ 15 ธันวาคม 2561 นิรันทร์ สวัสดิ์ศรี รอง สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง และ พันตำรวจตรี อดุล เจริญมงคล สารวัตรสืบสวน สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ที่เกิดเหตุภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 แยกที่ 3 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดก จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุหน้าอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จุดเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อต่อมา นางสาวศิริพร  อายุ 28 ปี อยู่ ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรถตู้ สีขาว มีร่องรอยของรถบุบบริเวณข้างซ้ายด้านล้อหลัง หากกันเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์สีดำ  สภาพรถช่วงหน้าด้านซ้ายพังยับเยิน แล้วยังพบกองเลือดที่กองอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายอายุประมาณ 30 ถึง 35 ปีอาการสาหัสเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลบางจากไปก่อนหน้านี้


จากการตรวจสอบผู้บาดเจ็บกับผู้เสียชีวิตเป็นสามีภรรยากัน จากการสอบถามชาวบ้านเบื้องต้นในที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับและผู้เสียชีวิตเป็นคนซ้อนท้าย โดยได้ขับรถจักยานยนต์หนีผู้ที่จะมาทำร้ายซึ่งได้ขับรถตามหลังมาแล้วพอมาถึงจุดเกิดเหตุรถของผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเกิดเสียหลักเฉี่ยวชนกับเสาไฟข้างทางและไปชนซ้ำรถตู้ที่จอดข้างทางเป็นเหตุให้คนซ้อนซึ่งเป็นภรรยาได้เสียชีวิตและคนขับซึ่งเป็นสามีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้นคู่กรณีที่ขับขี่ตามหลังมาก็ได้จอดรถจักยานยนต์ลงไปทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเลือดเย็นและโหดร้ายทำให้หญิงสาวเสียชีวิตอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้มีชาวบ้านได้ถ่ายคลิปไว้ได้ โดยมีชาย 2 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังมาแล้วทำร้ายร่างกายซ้ำ ทราบชื่อ 1 นาย อภิชาติ (หรือตี๋)  อายุ 26 ปี อยู่ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ สีดำเทา กรุงเทพมหานคร และมีนาย ศรายุทธ (หรือฟิล์ม) อายุ 24 ปี อยู่ ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการเป็นคนซ้อนท้ายไปด้วยกัน ได้ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งคู่แล้วจึงยืนรอมอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ


เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักพร้อมด้วยผู้ต้องหาทั้งสองคนและผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต เจ้าที่ตำรวจบันทึกภาพที่เกิดเหตุรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตเจ้าที่ตำรวจให้เจ้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำทรงสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง



จากการสอบถาม นางสาวกัญญารัตน์  อายุ 23 ปี แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า หลังจากเลิกงานมา ตนเองกับเพื่อน รวม 4 คน ได้มานั่งสังสรรค์กันบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ส่วนอีกกลุ่มที่มีปัญหากันที่ได้มานั่งสังสรรค์ก่อนหน้านี้แล้ว มากัน 4 คน ซึ่งกลุ่มตนเองกับกลุ่มผู้ก่อเหตุก็นั่งห่างกันมาก ซึ่งกลุ่มที่มีปัญหานั้นเริ่มอาการมึนเมาบ้างแล้ว โดยคนในกลุ่มดังกล่าวได้ต่อว่ากลุ่มตนเอง น่าจะมาจาก ที่กลุ่มตนเองไปมองว่ากลุ่มดังกล่าวทะเลาะกันเสียงดัง กลุ่มดังกล่าวเลยไม่พอใจ โดยขณะที่คนในกลุ่มดังกล่าวต่อว่าตนเองนั้นเป็นจังหวะที่ตนเองคุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มอยู่ แล้วแฟนได้ยินว่ากลุ่มดังกล่าวมาด่าตนเองจึงเกิดความไม่พอใจ แฟนตนเองจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมากับเพื่อน รวม 2 คน พอแฟนตนเองมาถึงกลุ่มที่มีปัญหาดังกล่าวก็ขี่รถจักรยานยนต์หนี แฟนตนเองก็ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม หลังจากนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว



ด้าน นางสาวชญาภรณ์  อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองเห็นตอนที่รถจักรยานยนต์ที่มีชายหญิงเขาล้มแล้ว ลักษณะเหมือนเขาไล่กันมา ก่อนจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประมาณ 2 คน ตนเองได้ยินมีคนพูดว่า มึงจะแทงแฟนกูใช่ไหม มึงเก่งนักใช่ไหม พอสินเสียงคำถาม ผู้ก่อเหตุก็ได้ทำร้ายโดยการเตะและกระทืบซ้ำทั้งผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิต



ส่วน นายอติชาติ  อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ตายอาละวาทจะเอามีดมาแทงเมียตนเองก่อน มีหลักฐานดูกล้องวงจรปิดได้ โดยผู้ตายได้ตะโกนว่ามึงเก่งให้ไปเอาพ่อมาต่อยกับกุเลย ตนเองไม่เคยมีเรื่องกับผู้ตายมาก่อน โดยเหตุเกิดวันนี้ละ เรื่องมาจากที่ผู้ก่อเหตุใช้ขวดปาเมียตนเองก่อนที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจังหวะเดี่ยวกับที่ตนเองจะมารับแฟนตนเองหลังเลิกงาน โดยที่ตนเองมาถึงเขากำลังโวยวายอยู่ พอเขาเจอหน้าผม เขาก็ขี่รถจักรยานยนต์หนี ตนเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ตาม ก่อนที่เขาจะเสียหลักตรงช่วงโค้งดังกล่าว ก่อนที่ตนเองจะลงมือก่อเหคุ โดยตนเองยอมรับว่าก่อเหตุจริง






คุณอาจสนใจ