แม่ใจสลาย! ขี่จยย.ส่งลูกวัย 7 ขวบไปโรงเรียน เคราะห์ร้ายลูกพลัดตกรถ ถูกรถเมล์ทับศีรษะดับ

สลด สาวขี่จยย.ไปส่งลูกที่โรงเรียนพลัดตกรถจยย. ถูกรถเมล์ทับศีรษะดับต่อหน้า

วันนี้(13 ธ.ค.65) เมื่อเช้านี้เกิดเหตุสลด เมื่อเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นั่งรถจักรยานยนต์ ที่แม่เป็นคนขี่ เพื่อที่จะพาไปส่งโรงเรียน ก่อนรถเสียหลัก ทำให้ลูกพลัดตกรถ เป็นเหตุให้ถูกรถโดยสารประจำทางที่ขับสวนทางมาทับศีรษะดับ และขับรถหลบหนีไป ด้านคนขับยัน ไม่ได้หนี แต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุขึ้น


เป็นภาพวงจรปิด เมื่อเวลาประมาณ 07.37น. เมื่อเช้านี่ บันทึกภาพรถจักรยานยนต์สีขาว จากนั้นลักษณะคล้ายกับถูกรถสีเขียวที่ขับมาทางตรงเฉี่ยว ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลัก เด็กอยู่บนรถพลัดตกลงมา ก่อนที่รถโดยสารที่ขับสวนมา จะขับทับไปที่ศีรษะ

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ที่บริเวณปากซอยกำนันแม้น 5 เขตจอมทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งเหตุมีเด็กหญิงวัย 7 ปี สวมชุดนักเรียน ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถโดยสารประจำทางทับศีรษะเสียชีวิต


โดยที่เกิดเหตุ บนถนนกำนันแม้น แบ่งเป็น 2 ช่องทาง ขับสวนกัน และพบร่างของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ทราบชื่อว่าชื่อเด็กหญิง ปัทมพร แสงสังข์ หรือ น้องมีนา เรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนดวงวิภา นอนหงายจมกองเลือด สวมชุดนักเรียน มีบาดแผลใบหน้า และศีรษะแตก รวมถึงพบคราบเศษสมองกระจายอยู่บนพื้นถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสกู๊ปปี้สีขาว ทะเบียน 3 ขฮ 4638 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่กลางถนน สภาพกระจกมองข้างฝั่งซ้ายหัก ซึ่งมีนางสาวลักษมี แสงสังข์ อายุ 30 ปี แม่ของเด็กหญิง 7 ขวบเป็นคนขับขี่ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวา


มีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีรถโดยสารประจำทางเล็ก สีฟ้า สายบางบอน-ตลาดบางแค(สายเก่า) เลขข้างรถ 52 ทะเบียนป้ายเหลือง 12-4769 กรุงเทพมหานคร ขับทับร่างเด็ก และหลบหนีไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงส่งร่างของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ไปยังภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตว่า ศรีษะและช่องอกได้รับบาดเจ็บ


ทีมข่าว ได้เดินทางไปที่บ้านของน้องมีนา เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ได้เจอกับคุณแม่ คุณยาย และคุณตาของน้อง ซึ่งพาทีมข่าวเข้าไปดูข้าวของภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้าที่มีชุดนักเรียนของน้องมียา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า


ก่อนที่แม่ของน้องมีนา จะเล่าว่า ตอนเกิดเหตุ กำลังจะขี่รถจักรยานยนต์จากซอยกำนันแม้น 5 ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 650 เมตร เป็นประจำ โดยน้องมีนา ลูกสาวจะนั่งอยู่ข้างหน้ารถจักรยานยนต์ ส่วนตนจะนั่งคร่อมโอบลูกอีกที เมื่อขับเลี้ยวขวาออกมาจากซอยกำนันแม้น 5 ระหว่างนั้น จู่ๆ มีรถด้านหลังเหมือนจะไหลมาชนรถจักรยานยนต์ของตน จึงทำให้ตนเสียหลัก รถเซเกือบล้ม ทำให้ลูกสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้า เลยพลัดตกลงมาบนถนน จังหวะนั้น ทำให้รถโดยสารที่ขับสวนมา ทับไปที่ศีรษะและหน้าออกของน้องทันที ตนเองถึงกับหัวใจแหลกสลาย เพราะทันทีที่เห็นสภาพของลูก ตนรีบกอด และอุ้มลูกมาตรงฟุตบาท และพยามจะยื้อชีวิต แต่ก็ไม่ทัน


คุณแม่เล่าว่า วินาทีนั้น เห็นล้อรถโดยสาร ขับมา ตนพยามจะดึงลูกขึ้นมา แต่ก็ไม่ทันแล้ว ก่อนที่รถโดยสารจะไป จึงตะโกนบอกให้คนช่วยขี่ตามไปบอกคนขับ แต่คนขับกลับบอกว่าไม่ได้ชน


ด้านคุณยาย ยังทำใจไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเช้า เพิ่งจะป้อนข้าว และอาบน้ำส่งหลานไปโรงเรียน ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พูดอะไรไม่ออก เช่นเดียวกับคุณตาของน้องมีนา เล่าทั้งน้ำตาว่า หลานสาวติดตนเองมาก มักจะเรียกตนว่า ป่ะป๊า เสมอ ทุกๆ วันจะเป็นคนแต่งตัวให้หลาน และส่งขึ้นรถจักรยานยนต์ของแม่เด็กไปโรงเรียน เมื่อเช้าหลังจากเพิ่งส่งหลานขึ้นรถจักรยานยนต์ของแม่ ไม่นาน ก็มีคนขี่รถมาบอกว่า หลานรถล้ม ให้ไปดูหน่อย


ตนรีบกระโดดขึ้นรถเพื่อนไปดู หัวใจแทบแตกสลาย ทันทีที่เห็นหลานนอนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ และรู้ทันทีว่าไม่สามารถยื้อชีวิตหลานไว้ได้อีกแล้ว เพราะเห็นสมองที่ไหลออกมา ตนไม่เคยปล่อยหลานอยู่ลำพัง ทุกๆ เสาร์อาทิตย์จะพาไปขายของด้วยที่ สนามหลวง2 แต่สุดสัปดาห์นี้ไม่มีหลานอยู่แล้ว ตนอยากบอกกับคนขับรถว่า เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อมีคนขี่รถไปตามแล้ว บอกแล้วว่า ขับรถทับเด็ก แทนที่จะลงมาดู แต่กลับบอกว่าไม่ได้ทำ และขับไปเลย ตอนนี้ทุกคนหัวใจสลาย หากชาติหน้ามีจริงอยากขอให้กลับมาเป็นลูกเป็นหลานตนอีก


ขณะที่ทีมข่าวเดินทางไปที่อู่รถโดยสารประจำทาง พบรถคันที่ถูกกล่าวอ้างว่า ขับทับเด็กจอดอยู่ภายในอู่ พอไปสังเกตที่ล้อหลังทางฝั่งขวา ยังคงพบร่องรอยเศษสมองติดอยู่ที่ซุ้มล้อหลังของตัวรถ

ทีมข่าวสอบถามคนขับ อายุ 62 ปี ที่ขับรถ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ตอนนั้นขับรถมาตามปกติ มีผู้โดยสารประมาณ 30 คน เมื่อขับผ่านช่วงซอยกำนันแม้น 5 ยอมรับว่าไม่ทราบว่ารถโดยสารของตนขับไปทับศีรษะเด็ก ประกอบกับ ตอนดูกระจกข้างของตัวรถ ก็เห็นว่ามีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่อยู่ โดยไม่คิดว่าจะต้นเหตุมาจากตนเอง


กระทั่งขับผ่านไปประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ ก็มีคนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา และบอกว่า ตนขับทับเด็ก เลยถามผู้โดยสารในรถ และกระเป๋ารถเมล์ ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้ขับทับใคร จึงขับรถส่งผู้โดยสารต่อ


จนช่วงสายมีคนมาตาม จึงเข้ามาให้ปากคำที่ สน.บางขุนเทียน เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนประเด็นที่ครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่า ขับทับแล้วหนี ตนอยากบอกกับครอบครัวของเด็ก 7 ขวบ ว่าไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้หลบหนี ถ้าทราบว่าขับรถชน ก็จะลงมาดู แต่เป็นเพราะไม่รู้ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


เบื้องต้น หลังจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเชิญผู้ขับรถเมล์มาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงจะไล่ภาพวงจรปิดเพิ่มเติม และเตรียมประสานรถคันสีเขียวที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนร่างของน้องมีนา ทางครอบครัวจะไปติดต่อเพื่อรับร่างประกอบพิธีทางศาสนาในวันพรุ่งนี้