สังคม

ชายวัย 61 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกอดีตดารารุ่นใหญ่ ขับรถชนแล้วหนี

โดย nutda_t

10 ธ.ค. 2565

9.6K views

ผู้เสียหาย ถูกอดีตดารารุ่นใหญ่ ขับรถเฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บ เดินทางมาพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยระบุว่า คู่กรณีปัดความรับผิดชอบ ชนแล้วหนี ไม่จอดลงมาดู และจะขอจ่ายเงินชดใช้แค่ 3 หมื่นบาท ทั้งที่ค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ รวมแล้วกว่า 1 แสนบาท



นายสุพร อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤศจิกายน ประมาณ 5 โมงเย็น ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านหลังเลิกงาน พอขี่มาถึงช่วงอุโมงค์พระราม 5 ตนขี่อยู่เลนซ้ายสุด แต่ระหว่างกำลังขี่ขึ้นจากอุโมงค์ พื้นตรงนั้นมีน้ำและเศษทรายเลอะถนนอยู่ ตนกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เลยเบี่ยงออกมาเลนกลาง แต่ยังขี่ชิดริมซ้ายอยู่ จากนั้นรถตู้เบนซ์ของคู่กรณี ที่ขับตามหลังมาในเลนขวาด้วยความเร็ว ก็เปลี่ยนมาเลนกลาง และชนตนทันที ซึ่งหากดูจากคลิปวงจรปิดจะเห็นว่า คู่กรณีเปลี่ยนเลนโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว



จากนั้น ตนก็กระเด็นไปอยู่ข้างทาง กลิ้งหัวโขกถนน และมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย ซึ่งตนยังพอรู้สึกตัว แต่มึนๆ และได้ยินคนตะโกนว่าคู่กรณีหนีไปแล้ว จนมีกู้ภัยมาแล้วขี่รถตามไปดักรถคู่กรณีไว้ให้ ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งพอได้เจอกัน คู่กรณีก็บอกว่า ไม่รู้ตัวว่าชน และที่ไม่ได้จอดเพราะกำลังรีบไปกินข้าวกับครอบครัว พร้อมบอกว่าขอไม่ให้แจ้งความ เพราะตัวเองเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นดารา ไม่อยากให้เป็นข่าว หากต้องการอะไร พร้อมรับผิดชอบทั้งหมดทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งตอนนั้นตนบาดเจ็บอยู่ เลือดออกเยอะ จึงเชื่อคู่กรณี และรีบให้กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อน โดยตนต้องเข้าผ่าตัด เย็บแผลที่ข้อศอก 8 เข็ม นิ้วเท้าซ้าย 6 เข็ม และข้อมือขวา ยังถูกของมีคมทิ่มจนกระทบเส้นประสาท ตอนนี้ต้องหยุดงานอย่างน้อย 6 เดือน ส่วนค่ารักษาพยาบาลหมดไปประมาณ 7 หมื่นบาท และค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ อีกประมาณ 3 หมื่นบาท



ด้าน นายถิรวัฒน์ อายุ 34 ปี ลูกชายของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากแยกย้ายกับคู่กรณีในที่เกิดเหตุ พี่สะใภ้ตนได้โทรศัพท์กลับไปหาคู่กรณี เพื่อแจ้งว่าได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลไหน ประเมินค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ คู่กรณีต่อว่ากลับมาว่า ทำไมต้องเข้าโรงพยาบาลเอกชน ทำไมถึงไม่เข้าโรงพยาบาลของรัฐ พร้อมพูดจาลักษณะจะกล่าวหาว่าฝ่ายตนอยากจะเรียกเงิน เมื่อเห็นว่าท่าทีดูจะคุยกันยาก คืนนั้นตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.บางกรวย และหลังจากวันนั้น ก็ติดต่อคู่กรณีไม่ได้อีกเลย



จนเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 1 เดือน ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ได้พยายามเรียกคู่กรณีเข้ามาพบ แต่เจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยง พนักงานสอบสวนจึงแจ้งว่าหากไม่มาจะออกหมายจับ คู่กรณีจึงยอมเข้ามาพบในวันที่ 1 ธันวาคม แต่เมื่อเจรจากันแล้วบอกว่า จะขอจ่ายเงินแค่ 3 หมื่นบาท หากอยากได้มากกว่านี้ให้ไปฟ้องร้องเอา และตั้งแต่เกิดเหตุจนวันที่มาเจอกัน ก็ยังไม่มีคำขอโทษแม้แต่คำเดียว ซึ่งที่ตนตัดสินใจมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด ก็เพียงแค่ต้องการให้คู่กรณีมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามจริงเท่านั้น ไม่ใช่ทำเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไรเลย



ส่วนเรื่องทางคดีความ ตอนนี้พนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 2 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับรถชนแล้วหนี ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ยอมไกล่เกลี่ย เพราะคู่กรณีไม่ได้แสดงความใส่ใจที่จะรับผิดชอบหรือมาถามไถ่เลยตลอดเวลาที่ผ่านมา



ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ในมุมมองของตน การเป็นบุคคลสาธารณะยิ่งควรต้องมีความรับผิดชอบ เพราะเป็นแบบอย่างของสังคม และเรื่องนี้ผู้เสียหายก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเยียวยามากมาย เพียงแค่ต้องการให้ช่วยรับผิดชอบตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่คู่กรณีก็ยังไม่ยอมจ่าย นอกจากจะไม่จอดดูในที่เกิดเหตุแล้วยังปัดความรับผิดชอบ ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ให้ดำเนินคดีคู่กรณีในทุกข้อกล่าวหาที่พบว่ามีความผิด แม้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงแต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ