เตือนภัย! โจรล้วงผ้าในร้านซักย่านดินแดง สารภาพขโมยกกน.แบรนด์เนม ไปขายต่อ

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น 5.2 ลงคลิปร้านซักอบผ้าแห่งหนึ่งย่านประชาสงเคราะห์ 27 หลังมหาวิทยาลัยเอกชนย่านดินแดง ถูกคนร้ายทำทีมาใช้บริการซักผ้า แล้วเปิดถังซักอบผ้าเพื่อล้วงเอาทรัพย์สินของมีค่าในเสื้อผ้า แล้วรีบหลบหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นตามในวงจรปิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 65 ช่วงเวลาประมาณ 00.18 น. ที่ผ่านมา



ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร้านซักผ้าที่เกิดเหตุ อยู่ในซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงดินแดง เขตดินแดง เพื่อพบกับคุณภริทตา อายุ 38 ปี เจ้าของร้านซักผ้าและเจ้าของเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเพิ่งเปิดร้านซักผ้าดังกล่าวได้เพียงแค่ 5 วันเท่านั้น ตนจึงคอยมอนิเตอร์ดูกล้องวงจรปิดในร้านเรื่อย ๆ เมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันนี้ ตนสังเกตเห็นในกล้องวงจรปิดว่า มีชายคนดังกล่าวตามในคลิปทำทีเดินเข้ามาดูลาดเลาในร้านก่อนถึง 2 ครั้ง แล้วเดินออกไป ซึ่งแต่ละครั้งยังไม่ได้ลงมือทำอะไร จนกระทั่งเมื่อเดินเข้ามาครั้งที่ 3 ก็ปรี่เข้ามาเปิดถังอบผ้า ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงถังเดียวที่มีผ้าอยู่ ก็จะลงมือรื้อเอาเสื้อผ้าออกมาใส่ตะกร้าผ้าที่วางอยู่ และค่อย ๆ แยกเอากางเกงชั้นในวางไว้ข้างถัง จากนั้นไม่ถึง 1 นาที คนร้ายก็รีบปิดถังอบผ้าแล้วเดินออกไป



คุณภริทตา เล่าเสริมว่า ขณะนั้นกล้องวงจรปิดสามารถจับเสียงฝีเท้าได้ว่ากำลังมีคนเดินมาที่ร้าน จึงสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะได้ยินว่า กำลังมีคนเดินมาที่ร้าน เลยรีบออกจากร้านไปโดยปล่อยให้เสื้อผ้าที่รื้อกองไว้ตรงนั้น



ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ชัดว่า หลังก่อเหตุคนร้ายไม่ได้หลบหนีออกไปทันที แต่ทำทีว่าตนมาจอดรถจักรยานยนต์และเช็คเครื่องยนต์ใกล้ ๆ กับร้าน ซึ่งขณะนั้น ก็มีคนเดินมาที่ร้านจริง ๆ พร้อมหันไปหาผู้ก่อเหตุว่าน่าจะมีพิรุธ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุขี่หลบหนีไป



หลังเหตุการณ์นี้ คุณภริทตา เล่าว่า ตนได้รีบเดินทางมายังร้านทันที และดำเนินการแจ้งไปยังลูกค้าให้ทราบว่า ขณะนี้มีคนมารื้อค้นเสื้อผ้าของลูกค้า ซึ่งต่อมาในช่วงเช้า หลังจากที่ตนได้กระจายคลิปภาพเหตุการณ์นี้ลงโซเชียล ปรากฎว่า ชายผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาที่ร้าน เพื่อมาขอโทษและขอร้องไม่ให้แจ้งความ ตอนแรกได้ปฏิเสธว่าตนไม่ได้มาขโมย เพียงแต่จะมาดูผ้าของแฟนที่ซักทิ้งเอาไว้เท่านั้น ซึ่งเจ้าของผ้าที่ถูกรื้อก็ยืนยันว่าไม่ใช่แฟนและไม่เคยรู้จักผู้ก่อเหตุมาก่อน จึงเค้นต่อไปจนรับสารภาพว่าทำลงไปเพื่อขโมยจริง แต่ไม่ได้รื้อเพื่อขโมยของมีค่า เพียงแต่เอาเสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยเฉพาะกางเกงชั้นในที่มีราคาไปขาย อ้างว่าเนื่องจากตัวเองยากจน จำเป็นต้องทำลงไปเช่นนี้เพื่อหาเงิน



ผู้ก่อเหตุเพิ่งจะอยู่ชั้น ปวช. ปี 1 เท่านั้น จึงร้องขอให้ผู้เสียหายไม่แจ้งความ แต่คุณภริทตา ยืนยันว่าไม่ขอพูดคุยเจรจากับผู้ก่อเหตุ และจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว และที่สำคัญคือตนเพิ่งเปิดร้านได้แค่ 5 วัน ก็อยากจะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า อีกทั้งในย่านดังกล่าวส่วนใหญ่ก็มีหอพักนักศึกษาอยู่จำนวนมาก จึงกังวลว่าเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ที่มีใครมาล้วงผ้าของคนอื่นได้ ก็อาจจะบานปลายเป็นการก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศได้ในอนาคต ตัวผู้ก่อเหตุเองก็อาจจะเข้าข่ายมีปัญหาทางจิตด้วย เพราะสังเกตเห็นว่ามีการแยกกางเกงชั้นในเอาไว้โดยเฉพาะ จึงอยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์แก่บรรดาผู้ประกอบการร้านซักผ้าและร้านที่เปิดกลางคืนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพและคนจิตไม่ปกติมาก่อเหตุในลักษณะนี้ ก่อนจะเตรียมเดินทางไป สน.ดินแดง เพื่อแจ้งความต่อไป