ต่างประเทศ

‘สี จิ้นผิง’ เยือนซาอุฯ ครั้งประวัติศาสตร์ ประสานสัมพันธ์ครั้งใหญ่ชาติอาหรับ

โดย nattachat_c

8 ธ.ค. 2565

138 views

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เดินทางถึงกรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบียแล้ว เมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมประชุมหารือกับผู้นำในภูมิภาค เป็นเวลา 3 วัน มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ในหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องพลังงาน


ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเป็นครั้งที่ 3 ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง  นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในปี 2020 และเป็นการเยือนซาอุฯ ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกครั้งแรกของ สี จิ้นผิง นับจากปี 2016


ผู้นำจีนจะหารือในระดับทวิภาคี กับ กษัตริย์ซาลมาน และเจ้าชายโมฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุฯ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย ตลอดจนจะมีการประชุมสุดยอด 6 ชาติสมาชิก คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) และการประชุมสุดยอดจีน-อาหรับด้วยเช่นกัน


คาดว่าประเด็น 'ตลาดน้ำมัน' จะเป็นวาระสำคัญในการเจรจาหารือกับจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และยังคาดว่า ผู้นำจีนและซาอุฯ ยังอาจจะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงที่อาจเป็นไปได้ ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทจีนมีส่วนร่วมมากขึ้นในโครงการขนาดใหญ่ ที่เป็นศูนย์กลางของวิสัยทัศน์ของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ที่ทรงมุ่งมั่นให้เศรษฐกิจของซาอุฯลดการพึ่งพาน้ำมันลงด้วย


รอยเตอร์ส ระบุว่า การเดินทางเยือนซาอุดิอาราเบียของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีนครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักระหว่างซาอุดิอาราเบียและสหรัฐฯ โดยคาดว่า ซาอุฯจะจัดการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการต้อนประธานธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ที่เยือนซาอุฯ เมือเดือนกรกฎาคมที่๋ผ่านมา


ในเวลาเดียวกันกับที่ผู้นำจีนเยือนซาอุดิอาราเบียนั้น ปรากฏว่า ศาลสหรัฐฯได้ประกาศยกฟ้อง เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย หลังทรงตกเป็นจำเลยพัวพันคดีสังหารนักข่าวชาวซาอุฯ จามาล คาช็อกกี โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้รับรอง 'สิทธิคุ้มกันทางกฎหมาย' ให้แล้ว


ทั้งนี้ คาช็อกกี ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ และมักเขียนบทความวิจารณ์รัฐบาลซาอุฯอยู่เนืองๆ ถูกฆ่าหั่นศพโดยกลุ่มสายลับซาอุฯ ที่สถานกงสุล ในนครอิสตันบูล เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2018 ซึ่งหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯเชื่อว่าเป็นคำสั่งโดยตรงจากเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ซึ่งทรงทำหน้าที่เสมือน 'ผู้ปกครองซาอุฯ ในทางพฤตินัย' มานานหลายปีแล้ว ซึ่งพระองค์ได้ทรงปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของคาช็อกกีแต่อย่างใด  

คุณอาจสนใจ

Related News