ชายวัย 66 ปี หวิดตาบอด ถูกงูเห่าพ่นพิษใส่ตา ไปเก็บกับดักหนู แต่เจองูตัวเขื่องแทน

กู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ได้รับแจ้งว่ามีประชาชนถูกงูเห่าพ่นพิษใส่บริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บ หลังจากนำกับดักไปจับหนูและกระแต บริเวณสวนของชาวบ้าน ขณะที่ไปเก็บกู้กับดัก ปรากฎว่ากับดักที่จับกระแตกลายเป็นงูเห่าอยู่ในกับดักแทน ซ้ำยังพ่นพิษใส่บริเวณใบหน้า ได้รับบาดเจ็บ



ตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณพื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองเสม็ด ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบกับ นายแวน อายุ 66 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกงูเห่าพ่นพิษใส่บริเวณใบหน้า มีอาการน้ำตาไหลและมีแผลปวดบวมบริเวณรอบดวงตาด้านขวา โชคดีที่ผู้ได้รับบาดเจ็บสวมใส่แว่นสายตาและสวมหมวก จึงได้รับพิษแค่บริเวณรอบดวงตา เบื้องต้นได้นำน้ำสะอาดล้างบริเวณใบหน้าและดวงตา ก่อนที่เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม จะนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล



นายแวน เล่าว่า ตนได้นำกับดักไปดักหนูและกระแต บริเวณป่าสน เพื่อที่จะนำมาประกอบอาหาร หลังจากที่ไปเก็บกู้กับดัก ได้พบงูเห่าตัวเขื่องขนาดประมาณเท่าแขนอยู่บริเวณกรงดัก จากนั้นงูเห่าตัวดังกล่าวได้พยายามเลื้อยออกมา ตนจึงได้นำไม้ไปตีงูเห่า หลังจากนั้นตนไม่ได้สังเกตว่าโดนพ่นพิษมาตอนไหน แต่มั่นใจว่างูเห่าโดนตนตีจนตาย จากนั้นจึงได้ออกมาเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเข้าไปดูงูเห่า แต่ปรากฎว่าไม่พบงูเห่าตัวดังกล่าว หลังจากที่ตนโดนงูเห่าพ่นพิษใส่ มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณใบหน้าและดวงตาด้านขวา จึงให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงโทรเรียกกู้ภัยมารับไปส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษา



ด้าน นายชิดไชย ทรงสกุล อายุ 33 ปี พนักงานดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม และเป็นเจ้าหน้าที่ snake recue thailand หรืออาสาพิทักษ์งูประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี ส่วนมากจะพบงูเห่าพ่นพิษเป็นหลัก งูเห่าไทยในจ.ปราจีนบุรี นั้น จะพบได้น้อยมาก ส่วนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่โดนงูเห่าพ่นพิษใส่ดวงตา ให้นำน้ำหรือน้ำเกลือทางการแพทย์มาล้างผ่านดวงตา หากพิษของงูเห่าถูกผิวหนังตามบริเวณร่างกาย จะมีแผลหรือผิวจะปรากฎเป็นสีแดง ให้นำน้ำเปล่ามาล้าง จากนั้นนำตัวผู้ที่ได้รับพิษของงูเห่าส่งโรงพยาบาลต่อไป