โจ๋เลือดร้อน เขม่นอริ มองหน้ากันในผับ ควงสปาต้าไล่ฟัน ปืนยิงใส่ เจ็บ 2

เมื่อเวลา 03.46 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.สายใจ คำจุลลา สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา , พ.ต.ต.กองพล เดชะคำภู สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธมีดฟันและใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณปากซอยพัทยา สายสอง 16 หลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบไปตรวจสอบ



ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บรายแรก ทราบชื่อคือ นายต้นตระการ อายุ 22 ปี ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ และถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แขนขวา ส่วนผู้บาดเจ็บรายที่สอง ทราบชื่อคือ นายดิศร อายุ 24 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ต้นขา นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน



ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ยิงถูกกำแพงห้องพักครูของโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ซึ่งมีครูพักอาศัยอยู่ในขณะนั้น สร้าความตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร มีคราบเลือดติดอยู่ แต่ไม่พบปลอกกระสุนปืนแต่อย่างใด ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุอีก 2 คัน ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน



จากการสอบถาม นายต้นตระการ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีปัญหากับกลุ่มคู่กรณีในผับแห่งหนึ่งย่านสายสามพัทยา ซึ่งได้พูดคุยสอบถามว่า มองหน้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า และได้คุยกันคิดว่าจบไปแล้ว หลังผับปิด ตนเองก็แยกย้ายกันกลับตามปกติ แต่กลุ่มคู่กรณีกลับไม่ยอมจบ ได้ติดต่อมาขอนัดเคลียร์ใจอีกรอบ โดยนัดให้มาหาตรงจุดที่เกิดเหตุ ตนเองไปกับเพื่อนเพียง 2 คน เมื่อมาถึงฝ่ายคู่กรณีมากัน 4 คน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ปรี่เข้ามารุมเตะต่อย แล้วใช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่ศีรษะ ก่อนที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุจะชักอาวุธปืนยิงใส่ จนตนเองกับเพื่อนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว



ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุยิง จอดรถฝั่งตรงข้าม แล้ววิ่งเข้ามาทำร้ายกลุ่มผู้บาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งคนที่ก่อเหตุยิงนั้นยืนอยู่อีกฝั่ง แล้วชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าทั้งสองกลุ่มมีปัญหาอะไรมา



เบื้องต้น พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสั่งการให้ไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนผู้บาดเจ็บยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกด้วย