สังคม

สบส. ร่วมกับ ปคบ. บุกจับหมอเถื่อน คาคลินิกเสริมความงาม ย่านรามอินทรา

โดย nutda_t

29 พ.ย. 2565

565 views

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ด้วยกรม สบส.ได้รับเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ว่ามีหมอเถื่อนรายหนึ่ง แอบอ้างว่าตนเป็นแพทย์ ไปสมัครงานและลักลอบให้บริการเสริมความงามแก่ประชาชนในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย ประสานงานกับตำรวจ บก.ปคบ. และพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในช่วงบ่ายวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายศาลเข้าตรวจสอบคลินิก ย่านรามอินทรา ซึ่งมีที่ตั้งเป็นอาคาร 1 ชั้น โดยคลินิกดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนและขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับเปิดให้บริการฉีดสารเสริมความงามนอกเวลาที่ขออนุญาต



และเมื่อขยายผลตรวจสอบถึงตัวแพทย์ผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นหญิง อายุ 36 ปี กลับพบว่าจบการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อีกทั้ง หมอเถื่อนรายนี้มิได้ประจำที่คลินิก แต่เดินทางมาจากต่างจังหวัด มาให้บริการฉีดสารเสริมความงามโดยเฉพาะ พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิด ในเบื้องต้น 5 กระทง ประกอบด้วย



1. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541

2. ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541

3. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525

4.จำหน่ายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยามีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510

และ 5. จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510



ก่อนนำตัวผู้กระทำผิดส่งตัวพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการ โดยในกรณี หมอเถื่อนรายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชน กรม สบส.จะออกคำสั่งปิดสถานพยาบาลชั่วคราว เป็นระยะเวลา 30 วัน พร้อมเรียกผู้ประกอบกิจการ และแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับกรม สบส. ต่อไป



ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรณีที่กรม สบส.ตรวจสอบพบว่า สถานพยาบาลใดปล่อยให้หมอเถื่อนมาลักลอบให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน นอกจากหมอเถื่อนรายดังกล่าวจะมีโทษตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 แล้ว ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้อนุญาต (กรม สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) อาจจะมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอีกด้วย



จึงขอกำชับให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกแห่ง ระมัดระวังและรอบคอบในการเปิดรับบุคลากร และตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนก่อนรับบุคคลดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติงานในสถานพยาบาล เพราะหากตรวจพบหมอเถื่อนในสถานพยาบาลใด ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเฉกเช่นหมอเถื่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ