ลูกสาวร้อง รถส่งน้ำแข็งเปิดประตูไม่ดูทาง ทำจยย.แม่ล้มดับ ถูกปฎิเสธเงินเยียวยา

ลูกสาวร้องแม่ถูกคนงานโรงน้ำแข็ง ขับรถกระบะแล้วเปิดประตูกระทันหัน ทำให้แม่ซึ่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ล้มกลางถนน แล้วเลือดคลั่งในสมองเสียชีวิต โดยดาบตำรวจสังกัด สน.ลาดกระบัง ซึ่งเป็นนายจ้างปฎิเสธเงินเยียวยา อ้างขายรถให้ลูกน้องไปแล้ว อีกทั้ง รถคันดังกล่าว พ.ร.บ.ก็หมดอายุ


นี่เป็นวินาที ที่คนขับกระบะคันสีขาว ซึ่งทำงานอยู่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ขับกระบะมาแล้วจอดข้างทาง แล้วเปิดประตูฝั่งคนขับ ทำให้ประตูไปโดน มอเตอร์ไซด์ของนางสาวศิริน ที่ขี่ซ้อน 3 มา จนทำให้ นางสาวศิริน นกอยู่ ซึ่งเป็นคนขี่ ลูกชายอายุ 8 ขวบของนางสาวศิรินซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้า และนางเจษฎางค์ ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวศิรินซึ่งนั่งซ้อนท้าย ล้มกลางถนน


โดยที่นางสาวศิริน และ ลูกชาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนแม่จองนางสาวศิริน หัวกระแทกพื้นอย่างแรง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดคลั่งในสมอง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลลาดกระบัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ภายในซอยลาดกระบัง 36 แต่สุดท้ายแม่ของนางสาวศิริน ได้เสียชีวิตวันที่ 30 มิถุนายน โดยแพทย์ลงความเห็นว่า กะโหลกศรีษะแตก สมองได้รับบาดเจ็บ


นางสาวศิริน เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า หลังเกิดเหตุ ได้มีตำรวจยศนายดาบตำรวจ ซึ่งอยู สน.ลาดกระบัง มาแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง และเป็นนายจ้างของนายชัยชนะ แสงแก้ว ที่ขับรถกระบะ


โดยตอนแรกซึ่งแม่ของตนยังไม่เสียชีวิต ดาบตำรวจรายนี้ ได้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่พอหลังจากแม่ของตนเสียชีวิต ดาบตำรวจรายนี้ได้ ก็ได้โอนเงินมาช่วยค่าจัดงานศพ ซึ่งเบ็ดเสร็จตนได้รับเงินช่วยเหลือก้อนแรกรวม 5 หมื่นบาท


จนกระทั่งหลังเสร็จพิธีงานศพของแม่ ตนได้สอบถามเรื่องเกี่ยวกับการเยียวยา แต่ดาบตำรวจรายนี้ได้บ่ายเบี่ยง โดยบอกว่ารถกระบะคันดังกล่าว ได้ขายโอนลอยให้กับลูกจ้าง คือนายชัยชนะแล้ว และให้ไปเจรจากับนายชัยชนะแทน


ซึ่งทำให้ตนรู้สึกว่า ดาบตำรวจรายนี้กำลังจะปฏิเสธความรับผิดชอบ เนื่องจากตนรู้มาว่า รถกระบะ คันดังกล่าว พ.ร.บ.หมดอายุ ส่วนชื่อผู้ครอบครองรถกระบะ ทุกวันนี้ยังเป็นชื่อของภรรยาดาบตำรวจ และหลังเกิดเหตุได้ 15 วัน ภรรยาของดาบตำรวจนายนี้ ยังไปทำเรื่องต่อ พ.ร.บ. รถกระบะ แต่กลับบอกตนว่ามีการขายโอนลอยไปแล้ว


ส่วนเรื่องทางคดี ขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการ ที่จะพิจารณาสั่งฟ้องนายชัยชนะ ในข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่


ทั้งนี้อัยการบอกตนว่า ทางดาบตำรวจได้ติดต่อขอที่จะเยียวยาให้ครอบครัวของตนประมาณ หลักแสนต้นเท่านั้น ซึ่งตนรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะหาก รถกระบะคันดังกล่าว มี พ.ร.บ. ครอบครัวตนจะต้องได้รับเงินจาก พ.ร.บ. ประมาณ 5 แสนบาท


ขณะที่ดาบตำรวจรายนี้ ซึ่งชื่อว่าดาบประทีป เปิดเผยทางโทรศัพท์กับทีมข่าวช่อง 3 ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ได้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ตัวเลข ที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเสนอมา ตนไม่สามารถหามาจ่ายให้ได้ เพราะตนไม่ได้มีฐานะร่ำรวย และโรงน้ำแข็งก็ไม่ได้ใหญ่โต หากสื่อมวลชนสงสัยในประเด็นอื่น ๆ ตนก็พร้อมยินดีให้สัมภาษณ์ แต่ไม่ขอให้ข้อมูลทางโทรศัพท์