ชาวเกาะหมาก จ.ตราด ร่วมผลักดัน 'เกาะคาร์บอนต่ำ' หนุนเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โครงการเกาะคาร์บอนต่ำ จัดการท่องเที่ยวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2554 กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ชุมชนเกาะหมากทำกิจกรรมอะไรบ้าง ในรายงานชุด กิน อยู่ รู้คิด เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม วิถีใหม่ โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์



แสงไฟราวสะพานที่ถูกตั้งเวลาให้เปิดเมื่อยามค่ำของที่พักแห่งนี้ ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ มานานกว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันผู้ประกอบการมากกว่าครึ่ง บนเกาะหมาก จังหวัดตราด ร่วมกันทำปฏิญญาเพื่อพัฒนาเกาะหมากให้เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Low Carbon Destination หรือ เกาะคาร์บอนต่ำ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์สู่ชั้นบรรยากาศมาตั้งแต่ปี 2554



ธรรมนูญเกาะหมาก 8 ข้อ ที่สำคัญคือ ไม่สนับสนุนให้เรือเฟอรี่นำยานพาหนะของนักท่องเที่ยวข้ามมายังเกาะหมาก ไม่สนับสนุนให้ใช้สารเคมีที่มีสารตกค้างสูง ไม่สนับสนุนกีฬาทางบกและทางทะเล ที่ใช้เครื่องยนต์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชน โดยเป้าหมายของธรรมนูญเกาะหมาก คือความพยายามรักษาพื้นที่อนุรักษ์ท่ามกลางการพัฒนา



ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าแนวคิดเรื่องร่วมกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้สถาปนาขึ้นในวิถีชีวิตประชาคมเกาะหมากแล้ว เช่นที่สวนมะพร้าวน้ำหอมแห่งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากการที่ต้องซื้อมะพร้าวน้ำหอม จากบนฝั่งมาจำหน่ายบนเกาะซึ่งมีราคาแพง รวมทั้งสิ้นเปลืองพลังงานจากการขนส่ง



เช่นเดียวกับที่แปลงผักปลอดสารเกาะหมากออร์แกนิกฟาร์ม ล้วนมาจากพื้นฐานความคิดเดียวกัน คือลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงานจากการขนส่งสินค้ามาที่เกาะ



การให้ความรู้นักท่องเที่ยวที่สนใจการอนุรักษ์ปะการัง ผ่านกิจกรรมร่วมกันขยายพันธุ์ปะการัง โดยกลุ่มอนุรักษ์ปะการังเกาะหมากที่ปัจจุบันได้วางแปลงอนุบาลปะการังไปแล้วกว่า 150 แปลง จากขนาดแปลง 60 คูณ 120 เซนติเมตร



ส่วนนี่คือพื้นที่แหล่งหญ้าทะเลซึ่งชุมชนร่วมกับภาคเอกชนและนักวิชาการ ในโครงการศึกษาการดูดซับและกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในทะเล เนื่องจากข้อมูลล่าสุดระบุว่าระบบนิเวศชายฝั่ง อันประกอบด้วย ป่าชายเลน ที่ราบน้ำท่วมถึง และหญ้าทะเล ซึ่งถือเป็น บลูคาร์บอน เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ ระบบนิเวศนี้กักเก็บคาร์บอนส่วนใหญ่ไว้ในราก และตะกอนดินซึ่งคาร์บอนเหล่านี้จะถูกกักเก็บได้นานนับพันปีในกรณีที่ไม่ถูกรบกวน