ชายเก็บเห็ดหลงป่านาน 3 วัน ต้องกินใบไม้ประทังชีวิต

ที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยขยุง ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เดินทางไปติดตามและให้กำลังใจแก่คณะเจ้าหน้าที่ทหาร ปภ.ศรีสะเกษ สาขากันทรลักษ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อส.อ.กันทรลักษ์ ผู้นำหมู่บ้าน และชาวบ้านทุ่งยาว ที่กำลังพากันติดตามหาตัว นายจ่อย อายุ 48 ปี ซึ่งได้ขึ้นเขาเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดที่บริเวณน้ำตกวังใหญ่ อ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ย.65 ที่ผ่านมา และได้พลัดหลงป่าหายไปนาน 3 วันแล้ว



นางวิไล อายุ 52 ปี ภรรยาของนายจ่อย เล่าว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 ตนกับสามี ได้พากันออกมาหาขุดมันที่บริเวณใกล้กับน้ำตกวังใหญ่ พอขุดมันเสร็จแล้ว นายจ่อย บอกกับตนว่าให้รออยู่ตรงนี้ จะเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดมาฝากลูกเขย ตนรออยู่จนค่ำไม่เห็นนายจ่อย กลับออกมาจากป่า จึงคาดว่าคงจะหลงป่า จึงได้เดินทางกลับมาบ้านและแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้รายงานให้นายอำเภอกันทรลักษ์ทราบ ต่อมาเช้าวันที่ 17 พ.ย. 65 นายอำเภอกันทรลักษ์ได้ประสานงานกับหน่วยทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับ อส.อ.กันทรลักษ์ และผู้นำหมู่บ้าน ชาวบ้านร่วมกันเดินปูพรมออกค้นหาแต่ว่าไม่พบตัว



จากนั้นเมื่อ เวลา 17.30 น. วันที่ 18 พ.ย. 65 ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามารายงานให้นายอำเภอกันทรลักษ์ ว่าได้พบตัวนายจ่อย แล้ว โดยขณะนี้นายจ่อย อยู่ที่บ้านของนางลอน อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของภรรยานายจ่อย ทำให้นางวิไลและญาติ พากันดีใจมากที่ทราบข่าว นายอำเภอกันทรลักษ์และคณะเจ้าหน้าที่ จึงได้พากันเดินทางไปที่บ้านนางลอน โดยนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.สต.ละลาย ให้มาตรวจสุขภาพของนายจ่อย เพื่อความปลอดภัยด้วย



เมื่อไปถึงพบว่านายจ่อย นั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิม แขนทั้ง 2 ข้าง มีรอยยุงกัด และรอยใบไม้ขีดข่วน เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ได้ทำการตรวจร่างกาย พบว่าสภาพร่างกายปกติดีทุกอย่าง ไม่มีอาการเจ็บป่วยอ่อนเพลียแต่อย่างใด



โดย นายจ่อย เล่าว่า ตนเดินเข้าไปในป่าเพื่อที่จะเก็บเห็ดขอนมาเป็นของฝากให้ลูกเขยชาว จ.อุบลราชธานี ที่มาเยี่ยมตนและครอบครัว จะได้นำเอาเห็ดไปเป็นอาหาร ตนเดินเข้าป่าลึกไปเรื่อย ๆ และเก็บเห็ดได้จำนวนมากจนเต็มกระสอบปุ๋ย แต่ว่าพอใกล้จะมืดค่ำไม่สามารถหาทางกลับออกมาจากป่าได้ จึงได้พักนอนในเพิงถ้ำ เก็บใบไม้ในป่ามากินเป็นอาหาร และดื่มน้ำจากลำธารประทังชีวิต พอรุ่งเช้าอีกวันก็เดินไปเรื่อย ๆ เพื่อหาทางออก จนค่ำมืดก็พักนอนใต้ต้นไม้ กินใบไม้ประทังชีวิตอีก

จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 18 พ.ย. ตนก็ได้เดินหาทางออกจากป่าไปเรื่อย ๆ พอช่วงบ่ายใกล้ค่ำ พบว่ามีถนนในป่า ตนจึงได้เดินไปตามถนน และได้พบกับชาวบ้านสามเส้า ที่เข้ามาทำไร่ ตนจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือ ขอนั่งรถจักรยานยนต์ออกมาด้วย และขอให้ชาวบ้านสามเส้าผู้ใจดี มาส่งตนที่บ้านก่อ ซึ่งเป็นบ้านน้องสาวภรรยาของตน ระหว่างที่ตนหลงป่าอยู่นั้น ตนไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด กลัวแต่ว่าจะไม่ได้กลับบ้านเท่านั้น



ด้าน นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าฯศรีสะเกษคนใหม่ และตน มีความห่วงใยอย่างมากที่พลัดหลงไปในป่า จึงได้ประสานงานกับทุกส่วนราชการเพื่อออกติดตามค้นหา และนับว่าโชคดีมาก ที่นายจ่อยสามารถหาทางออกมาจากป่าได้อย่างปลอดภัย ทำให้ทุกคนดีใจมาก จะได้เป็นเสาหลักในการดูแลหาเลี้ยงครอบครัวต่อไป และขอฝากเตือนประชาชนชาว อ.กันทรลักษ์ ทุกคนว่า หากจะเข้าไปหาของป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ควรตรวจสอบว่าเป็นป่าที่ตนเองคุ้นเคยหรือไม่ หากว่าไม่เคยชิน ก็ไม่ควรที่จะเข้าไป เพื่อความปลอดภัย