นักเรียนยกพวกตีกันในโรงเรียน ครูเข้าห้ามโดนต่อยกระเด็น

ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ นักเรียน 2 กลุ่ม ตะลุมบอนชกต่อยกัน ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความตกใจของเพื่อนนักเรียน และเสียงร้องห้ามของครูที่เข้าไปห้ามปรามไม่ให้ชกต่อยกัน แต่ว่านักเรียนไม่ฟัง ชกต่อยกันอย่างบ้าคลั่ง ครูชายหลายคนที่เข้าไปห้ามปรามโดนนักเรียนชกต่อยเข้าศีรษะและลำตัวหลายครั้ง ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้บริหารโรงเรียนและคณะครู สามารถระงับเหตุการณ์ได้ และได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อยในโรงเรียน



ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์หลายคน เล่าว่า เกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย.65 ได้มี เด็กชายเอ (นามสมมุติ) กับเพื่อน 3 คน ซึ่งทุกคนเป็นนักฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่ง มาจากต่างถิ่นที่มาเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ได้พากันมาเข้าห้องน้ำในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน ปรากฎว่าเด็กชายบี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่น มากับเพื่อนด้วยกันประมาณ 6 คน ได้มาพบกับกลุ่มของเด็กชายเอ ซึ่งเคยมีปากเสียงท้าทายกันมาก่อน



เมื่อเผชิญหน้ากันหน้าห้องน้ำ เด็กชายบีได้ยกพวกเข้าไปรุมชกต่อย เด็กชายเอ ทำให้กลุ่มของเด็กชายเอ วิ่งหนีไปบอกเพื่อน ๆ ที่เป็นนักฟุตบอลด้วยกันให้มาช่วย และเมื่อกลุ่มของเด็กชายเอ ตามมาจำนวนประมาณ 40 คน จึงได้พากันกรูเข้าไปชกต่อยตะลุมบอนกับกลุ่มของเด็กชายบี บริเวณชั้นล่างของอาคารเรียน ชุลมุนกันไปหมด คณะครูได้เข้าห้ามปรามอย่างเต็มที่ แต่ว่าไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ โดนชกกระเด็น และมี นักเรียนกลุ่มหนึ่งได้ช่วยกันเข้าห้ามปราม ทำให้เหตุการณ์สงบลง



ต่อมา ผู้บริหารโรงเรียนได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย และให้นำตัวนักเรียนที่เป็นนักฟุตบอลสโมสร กลับไปยังที่พัก แต่ปรากฎว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นชาวบ้านใกล้กับโรงเรียน และเป็นกลุ่มเพื่อนของเด็กชายบี พากันยกพวกจำนวนมากมาที่บริเวณหน้าโรงเรียน และโยนระเบิดปิงปองเข้ามาบริเวณรั้วโรงเรียน เสียงดังสนั่น 1 ครั้ง แต่ว่าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น



ทางผู้บริหารโรงเรียน เกรงว่าปัญหาจะลุกลามใหญ่โต จึงได้สั่งให้นักเรียนที่เป็นนักฟุตบอล จำนวนประมาณ 50 คน พักการเรียนชั่วคราว 5 วัน และมีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางผู้บริหารสโมสรฟุตบอลของนักฟุตบอลที่ก่อเหตุ ได้หารือกันเตรียมที่จะย้ายนักเรียนที่เป็นนักฟุตบอลของสโมสรไปเรียนที่จังหวัดแห่งหนึ่งแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นมาอีก



ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงต้นสังกัดของโรงเรียนแห่งนี้ ได้สั่งการให้ ผู้บริหารโรงเรียนที่เกิดเหตุ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเร่งด่วน