ผัวใจพระ! เรียก 6 หมื่นให้ชู้สู่ขอเมีย หวังค่าสินสอดเอาไว้เลี้ยงลูก สาวโต้แค่เพื่อน ไม่ได้แอบแซ่บ!

ผัวใจพระเรียก 6 หมื่นให้ชู้สู่ขอเมีย อ้างเป็นเงินสินสอดเอาไว้เลี้ยงลูก ล่าสุด ฝ่ายเมียกับมือที่ 3 ออกมาโต้ "ไม่ได้แอบแซ่บ" ยัน สนิทกันแค่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน ป.ตรี เท่านั้น


ไรเดอร์หนุ่มคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ขอใช้พื้นที่โพสต์ให้ชายที่เป็นชู้กับภรรยาทราบว่า ตนเองได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยากให้แสดงความเป็นลูกผู้ชาย นำสินสอด 60,000 บาท มาขอเมียผมไป จะได้ไม่ต้องหลบซ่อน..." นั้น


ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายโต เจ้าของโพสต์ ได้เปิดใจว่า ภรรยาของตนเอง เป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองติดต่อภรรยาไม่ได้ จึงไปรอที่หน้าสถานศึกษาที่เขาเรียนอยู่ กระทั่งเวลา 16.30 น. เห็นภรรยาขับรถยนต์ออกมาตามหลังรถยนต์ของนายสาม (นามสมมติ) จึงขับตาม โดยมีลูกสาววัย 9 ขวบซ้อนท้ายรถตนเองไปด้วย พยายามโบกให้ภรรยาจอด แต่ก็ไม่ยอมจอด ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ตนจึงขับไปประชิดและชี้บอกว่า


"ลูกนั่งอยู่ด้านหลัง ไม่ห่วงลูกหรอ" กระทั่งภรรยายอมจอดรถ และลดกระจกออกมา ตัวเองจึงเข้าทำร้ายร่างกาย ตนยอมรับว่าทำไปเพราะหึงหวง


ที่ผ่านมา ภรรยาเคยมีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้ง เมื่อ 4 ปีก่อน ตัวเองเคยติด GPS และตามไปจับภรรยาอยู่กับชายอีกคน เป็นเจ้าของอู่ในรีสอร์ต กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตัวเองก็มาจับได้ว่าภรรยาแอบแชตกับนายสาม จนตัวเองต้องโทรเคลียร์กัน 3 คน


ซึ่งตอนเคลียร์กัน ตัวเองได้บันทึกเสียงไว้ประมาณ 20 นาที เนื้อหาที่คุยกันตอนนั้นตัวเองก็ถามภรรยาและนายสามว่าเขาคบกันจริงหรือไม่ ถ้าเขาคบกันจริง ตัวเองก็พร้อมจะถอยออกมา


หลังจากนั้นตัวเองก็เคยโพสต์เฟชบุ๊กแฉภรรยาและนายสาม กระทั่งแม่ยายไล่ออกจากบ้าน ตัวเองจึงมา เช่าหอพักอยู่ และทำงานเป็นไรเดอร์ 1 ปี กระทั่งล่าสุด ก็มาจับได้ว่าภรรยาไม่รับสาย ซ้ำยังขับรถตามนายสาม ตัวเองจึงโมโห และทำร้ายภรรยา


กระทั่งมีการโพสต์เฟชบุ๊กว่าถ้าหากชายที่มาชอบภรรยาตน อยากได้ไปครองให้เขานำเงิน 60,000 บาท เป็นค่าสินสอดมาสู่ขอภรรยา ซึ่งเป็นการลองใจชายที่มาชอบภรรยาว่าเขาจะรัก และกล้านำเงินมาสู่ขอจริงไหม


สำหรับตอนตัวเองสู่ขอภรรยานั้น ตัวเองมีค่าสินสอด 50,000 บาท ที่ตัวเองตั้งสินสอดให้กับชายคนนั้นเป็น 60,000 บาท ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ถ้าหากชายอีกคนแต่งงานกับภรรยาตัวเอง แล้วตัวเองจะไปงานแต่งหรือไม่นั้น อยากบอกว่า "ถ้าเขาเชิญก็จะไปแน่นอน เพราะเขาคือคนที่ผมรัก"


นางเพ็ญ (นามสมมติ) มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตัวเองกลับจากเลิกเรียนที่มหาลัยสงฆ์ (เรียนรัฐศาสตร์ ป.ตรี) ซึ่งตรงนั้นไม่ค่อยมีสัญญาณ ทำให้แฟนติดต่อไม่ได้ ระหว่างที่ขับรถยนต์ออกจากมหาลัย ขับตามรถของนายสาม สามีตัวเองก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตามมา ตัวเองมองไม่เห็นลูกคนเล็กว่ามากับสามี แต่เมื่อเห็นว่าลูกมาด้วย จึงจอดรถแล้วลดกระจก สามีจึงใช้หมัดเข้ามาชกตาตัวเอง แล้วก็ดึงลงรถ แล้วทำร้ายร่างกาย ทั้งแตะถีบ หลังเกิดเหตุตัวเองจึงไปแจ้งความเอาไว้


ส่วนสาเหตุน่ามาจากเรื่องหึงหวง นายโตติดว่าตัวเองไปมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายสาม ยอมรับเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมา ตัวเองเคยคุยกับนายสาม แต่ยังไม่ได้มีสัมพันธ์กัน สามีจับได้ในตอนนั้น ตัวเองก็เลิกติดต่อกับนายสามแล้ว


ขณะที่ นายสาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า ตัวเองขอยืนยันว่าไม่เคยเป็นชู้กับนางเพ็ญ แม้แต่ครั้งเดียว ย้อนกับไปเมื่อปีที่แล้วตัวเองกับนางเพ็ญคุยกันทางโทรศัพท์และทางแชต ในฐานะเพื่อนปรึกษากันทั่วไป กระทั่งนายโตเขามาจับได้ว่าคุยกัน จึงมีการโทรเคลียร์กัน 3 คน


ซึ่งตอนที่คุยกัน ตัวเองก็บอกเขาว่าไม่ได้มีอะไรกับนางเพ็ญเลย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ตัวเองและนางเพ็ญก็ไม่ได้ติดต่อกัน กระทั่งมาเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์ เจอกันก็มีคุยกันบ้าง และไม่ได้ไปคบหากัน


ส่วนที่นายโตโพสต์ว่าจะยกนางเพ็ญให้ตัวเอง แต่ให้นำเงินสินสอด 60,000 บาท ไปสู่ขอฝ่ายหญิงนั้น ตัวเองก็รู้สึกเฉย ๆ คิดว่านายโตอาจโพสต์ไปเพราะหึงหวง ตัวเองจะไม่มีการไปสู่ขอแต่อย่างใด