สธ.แจงควบคุมการใช้ช่อดอกกัญชา ห้ามร้านจัดที่ให้สูบ แต่ซื้อไปสูบที่บ้านได้

วานนี้ (วันที่ 14 พ.ย.) นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมแถลงข่าวชี้แจง กรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับล่าสุด เรื่องสมุนไพรควบคุม ซึ่งประกาศเมื่อ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ควบคุมการใช้ช่อดอก ซึ่งเป็นส่วนที่มีสาร THC สูง

โดยในปัจจุบันมีหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลข้อกฏหมายในการใช้กัญชา ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น พรบ.อาหาร ของ อย. ที่กำหนด ห้ามใช่ช่อดอกกัญชามาเป็นส่วนผสม / ส่วนประกอบอาหาร หรือเรื่องเหตุสร้างความรำคาญจากควันการสูบกัญชา ตาม พรบ.สาธารณสุข โดยกรมอนามัย การควบคุมสารประกอบอาหาร กรมอนามัย ที่กำหนดหากมีส่วนผสมกัญชาต้องแจ้งผู้บริโภคก่อน และห้ามใช้ในเด็กและกลุ่มต้องห้ามตามประกาศ สธ.

ส่วนประกาศการออกประกาศ สมุนไพรควบคุมฉบับล่าสุด เป็นการออกมาเพื่อควบคุมการใช้ช่อดอก ทั้งศึกษา วิจัย ส่งออก จำหน่าย แปรรูป ต้องมีการขออนุญาต กับกรมการแพทย์แผนไทยฯ และต้องบอกแหล่งที่มา / ปริมาณที่เก็บไว้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังห้ามขายในคนอายุต่ำกว่า 20 ปี คนท้อง คนให้นมลูก พร้อมทั้งขยายกลุ่มไปยังนิสิต นักศึกษาด้วย แม้จะอายุเกิน 20 ปีก็ตาม

โดยข้อมูลล่าสุด มีผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตกับทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แล้ว 5,575 ราย และมีการออกใบอนุญาตแล้วกว่า 3,091 ราย โดยใบอนุญาตมี อายุ 3 ปี ต่อครั้ง ราคา 3,000 บาท ส่วนการส่งออกใบอนุญาต มีอายุ 3 ปีเช่นกัน ใน ราคา 20,000 บาท

ส่วนผู้ประกอบการที่มีการเปิดจำหน่ายช่อดอกพร้อมการจัดสถานที่ สำหรับการสูบก่อนหน้าที่จะที่การออกประกาศควบคุมการใช้ช่อดอก ขอให้ยกเลิกไปก่อน แต่สามารถจำหน่ายช่อดอกกัญชา ให้ประชาชนนำกลับไปสูบที่บ้านได้ โดยยังไม่มีการจำกัดปริมาณ

ส่วนของการปลูกในครัวเรือน ก็ไม่ถูกควบคุมเรื่องการใช้ช่อดอก แต่ต้องมีการไปขึ้นทะเบียน กับทาง อย. ผ่าน แอปฯ ปลูกกัน

ส่วนข้อกำหนดเรื่องการระวางโทษสำหรับการฝ่าฝืนข้อกฏหมาย และประกาศ เรื่องการใช้กัญชา ในประกาศ ฉบับล่าสุดที่กำหนดควบคุมเฉพาะการใช้ช่อดอกของกัญชาทุกชนิด มีการกำหนดบทลงโทษทั้งทางอาญาและทางเพ่ง

ด้านนายระพีพัฒน์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิขาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุ ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรนั่น ทำหน้าที่ควบคุมตั้งแต่การนำเข้าเมล็ดพันธุ์ นำมาปลูก รวมถึงการส่งออก ในแต่ละส่วนต้องมีการเข้ามาจดแจ้งขออนุญาติก่อน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบย้อนกลับ รวมถึงการควบคุมการปลูกด้วย

ขณะนี้กรมการแพทย์ ได้สร้างระบบติดตามผู้ได้รับผกระทบจากการใช้กัญชา จากการเข้าสู่ระบบการมารับการรักษาหลังการใช้กัญชา เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อกฏหมายที่ถูกนำมาใช้โดยตรงในการควบคุมการใช้กัญชา เลยทำให้อาจจะมีช่องว่างของการใช้อยู่

ด้านภาคีประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาประเทศไทย จัดเสวนาและแถลงการณ์ภาคประชาชนเรื่อง ความจำเป็นของการมีกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาเพื่อการควบคุมการใช้กัญชาในประเทศไทย ณ สวนครูองุ่น ทองหล่อ ซอย 3

มีข้อสรุปเรียกร้องให้ ส.ส. ทุกพรรคการเมือง เปิดพิจารณาสาระของ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เป็นรายมาตรา เพื่อให้สังคมไทยมีกฎหมายควบคุมกัญชาเชิงระบบ หากมีปัญหาที่เกิดจากการใช้ การแปรรูปหรืออื่นใดจากกัญชา โดยไม่มีกฎหมายมาควบคุมย่อมต้องเป็นความรับผิดชอบของสภาผู้แทนราษฎร์ทั้งหมด มิได้เป็นความรับผิดชอบของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะสภาได้แต่งตั้งกรรมาธิการของสภาเองในการจัดทำร่าง พ.ร.บ. แล้ว

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการนำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด ระบุว่า มีเสียงเรียกร้องมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่เรียนว่า การนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เป็นมติของคณะกรรมการ ปปส.(ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ก็ต้องเข้าใจบริบท เรากำลังนำกัญชามาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์

ซึ่งกฎหมายมันออกมาแบบนี้ มันต้องเปลี่ยนความคิด อย่าเพิ่งไปประทับตรา มันจะก้าวข้ามไปไม่ได้ ความพยายามใช้ประโยชน์จากกัญชามีมานานแล้ว แล้วเริ่มกันก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก มีการนำมาศึกษาวิจัย มีเอกสารข้อมูลมากมาย ต่อมาข้อมูลตรงนั้น ก็ใช้เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ปปส.พิจารณาปลดล็อกกัญชา และการออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อดูแลการใช้

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า การให้ปลูกกัญชาในครัวเรือน จะมีปัญหาในเรื่องของการควบคุมหรือไม่

นายอนุทิน อธิบายว่า เวลามีเหล้า มีบุหรี่ในบ้าน เด็กเปิดขวดดื่ม เปิดซองแล้วใช้ได้เลย แต่พืชกัญชา กว่าจะมาใช้ มันต้องผ่านกระบวนการ ขั้นตอนมันยุ่งยาก ถ้าเทียบกับเหล้า บุหรี่ มันอยู่ที่ว่าถ้าเราเป็นผู้ปกครอง เราก็ต้องดูแลบุตรหลาน อันนั้น เป็นการดูแลในระดับครอบครัว แต่ในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศมาแล้ว ว่าผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จะใช้กัญชาไม่ได้ แต่ถ้าละเมิดเท่ากับผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไปดำเนินคดี แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การทำความเข้าใจ เราอยู่ในบ้าน มีลูก มีหลาน ต้องให้ความรู้กันว่าอะไรคือประโยชน์ อะไรคือโทษ

พร้อมกล่าวย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชนควบคู่ไปกับการมีกฎหมายควบคุมความเสี่ยงที่เป็นข้อกังวล ก่อนปิดท้ายว่า “ตราบที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมไม่มีนโยบายขอให้ คกก. ป.ป.ส. พิจารณาให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรามีมาตรการป้องกัน เราเริ่มแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องเดินหน้า นโยบายของรัฐบาลนี้ มีอะไร ข้อที่ 4 เขียนชัด สนับสนุนให้ประชาชนใช้พืชกัญชา กัญชง เพื่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เกิดการสร้างรายได้ การที่จะเอาไปผสม ก็เพื่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ต้องทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย อะไรที่ผิดกฎหมาย ต้องไปจัดการตรงนั้น

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Y9K9eDy8deI