"บิ๊กโจ๊ก" เตรียมขอตร.สากล ออกหมายจับ 3 นายทุนจีนธุรกิจสีเทา เปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย หลบหนีออกนอกประเทศ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าการกวาดล้างธุรกิจสีเทานายทุนจีน หลังการแถลงสรุปผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เตรียมพร้อมรับ APEC 2022 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า อย่างที่สื่อทราบอยู่แล้วว่าขบวนการคนจีน มี 5 กลุ่มหลัก ซึ่งตอนนี้มีการจับกุมไปแล้ว 2 คน เหลือ 3 คน ที่หลบหนีออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ซึ่งกลุ่มคนที่หลบหนีได้

ตำรวจได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินภายในประเทศ และอยู่ระหว่างสืบสวนเส้นทางการเงินให้เสร็จสิ้น เพื่อขออนุมัติหมายจับกับทางตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล รวมไปถึงสืบสวนขยายผลเอาผิดกับขบวนการคนไทยที่เป็นนอมินีให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขอเวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ในการสืบสวนดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หลบหนีไปทั้ง 3 ราย ได้ดำเนินการขึ้น Blacklist ห้ามเข้าราชอาณาจักรแล้ว และประสานงานกับสถานทูตจีนประจำประเทศไทยในการสร้างความร่วมมือปราบปรามนายทุนจีนสีเทาร่วมกันทั้งสองประเทศแล้ว



เมื่อสื่อมวลชนสอบถามว่า ข้อมูล 5 เสือทุนจีนที่ตำรวจมี ตรงกับข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ตรงกัน และมีการขยายผลเพิ่มเติมด้วย ส่วนเส้นทางการเงินจะเชื่อมโยงไปถึงจ้าวเหว่ยหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ ซึ่งมีการประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.แล้ว



ส่วนกรณีของนายสันธนะที่ออกมาระบุว่าทั้ง 5 เสือเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกกลั่นแกล้ง และไปยื่นประกันตัวในเดวิดที่มีเอี่ยวผับจินหลิงนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ขณะนี้นายเดวิดยังคงถูกควบคุมตัวกับทาง ตม. ซึ่งตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วนในการดำเนินคดี ส่วนสิ่งที่นายสันธนะกล่าวมาเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่และมีข้อมูลที่เพียงพอที่จะเอาผิดผู้กระทำความผิดทั้งหมด



สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีเอี่ยวนั้น ทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่พบ จนท.ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีออกนอกประเทศ มีเพียงแค่ ตม. 2 รายจากจ.แพร่และอุดรธานีที่มีส่วนในการต่อวีซ่านักเรียนแก่ผู้ต้องหาจีนคดีอุ้มชาวจีนไปตัดนิ้ว ซึ่งได้เรียกมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเตรียมดำเนินคดีแล้ว ส่วนขบวนการปลอมบัตรประชาชน ทางตำรวจกำลังเร่งสืบสวนหาผู้กระทำความผิด โดยประสานกับทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยในการกวดขันและป้องกันการปลอมบัตรประชาชนและหาตัวเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว