อาชญากรรม

สาวร้องสื่อชาวบ้านไล่ยิงกันทำให้แท้งลูก

โดย onjira_n

7 พ.ย. 2565

320 views

คืนวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายนำมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด โดยเป็นเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนทะเลาะวิวาทกัน ภายในชุมชนประชาร่วมใจ 1 หลังวัดเสมียนนารี ย่านประชาชื่น ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากริมกำแพงวัด จากนั้นก็มีการตะโกนท้าทายกัน แล้วมีเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง จนทำให้ทุกคนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง



โดยผู้เสียหายที่ส่งเรื่องร้องขอความเป็นทำไปยังเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า แอดครับ ผมมีเรื่องมาขอความช่วยเหลือครับ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 คนแถวบ้านเขามีเหตุทะเลาะกันมีปากเสียงกันธรรมดา แต่อีกฝ่ายได้ตามพวกเอาปืนมากระหน่ำยิง(ตามคลิป) ทำให้พี่สาวของแฟนผมที่ท้องอ่อน 2 เดือน นั่งอยู่เฉยๆไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องวิ่งหนีตายหลบกระสุนจนล้มตกเลือด ตอนนี้เด็กในท้องได้เสียชีวิตแล้วครับพี่ ตำรวจ สน.ประชาชื่น เขาจับกลุ่มจับตัวคนยิงได้แล้วครับแต่พวกคนยิงเขามาข่มขู่ห้ามใครไปเป็นพยาน เขาบอกว่าเขารู้จักตำรวจผู้ใหญ่เยอะ มีเส้นสาย สามารถเครียร์คดีได้ คนแถวบ้านผมเลยให้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือกับ



วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 โดยได้ไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจาก นางสาวเอ นามสมมุติ สาวท้องที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วต่อมาได้เกิดแท้งลูก เธอบอกว่า ตัวเองอยู่ในชุมขนประชาชนร่วมใจ 2 อีกฝั่งหนึ่งของที่เกิดเหตุ แต่จะมานั่งเล่นที่นี่เป็นประจำ เช่นเดียวกันกับก่อนเกิดเหตุ ที่เพิ่งกลับจากไปกินก๋วยเตี๋ยว จึงแวะมา ทันทีที่มาถึง ก็พบว่า มีญาติพี่น้องกำลังทะเลาะวิวาทกันอยู่ มีการโต้เถียงกันไปมา ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทุกคนต่างก็ตกใจ แล้วพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แต่ด้วยความที่เหตุการณ์ชุลมุนทำให้วิ่งกระแทกกัน แล้วต่อมาตัวเองก็รู้สึกปวดท้อง จึงเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนพบว่ามีเลือดออก จึงให้สามีรีบพาไปโรงพยาบาล แต่ต่อมาหมอก็แจ้งว่า เด็กในท้องเสียชีวิตแล้ว



นางสาวเอ ยอมรับว่า ตอนนั้นตัวเองกับสามีช็อกมาก จนทำอะไรไม่ถูก เพราะเป็นลูกคนแรกกับสามีคนนี้ หลังเกิดเหตุจึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ประชาชื่น ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นผู้เสียหายไม่ได้ถูกยิงจนทำให้บาดเจ็บแท้งลูก จึงต้องหาหลักฐานที่ชัดเจนมาเพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งนางสาวเอ มองว่า ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะยืนยันว่าตั้งท้องมา 9 สัปดาห์ หมอระบุว่าเด็กสมบูรณ์ดี จึงเชื่อว่าสาเหตุที่ตัวเองแท้งลูกมาจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นแน่นอน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาหลักฐานมาเอาผิดได้หรือไม่



นอกจากนี้ นางสาวเอ ยังบอกด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย แต่บังเอิญเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุพอดี และที่รู้สึกสะเทือนใจ คือ หลังเกิดเหตุที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดี ญาติของผู้ก่อเหตุ ยังพูดอีกว่า “ ดันมาตายวันนี้ทำไม “ ทั้งยังได้ยินคนใกล้ชิดของผู้ก่อเหตุพูดด้วยว่า “ คดีแค่นี้เอง จิ๊บๆ “



ด้านนางสาวผึ้ง อีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรก บอกว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากเพื่อนบ้าน ซึ่งเกี่ยวดองเป็นญาติๆกัน ได้เข้ามาขอเคลียร์ใจกับคนในบ้าน ถึงคดีพรากผู้เยาว์ ที่คนในบ้านถูกจับดำเนินคดีไปเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน แต่การเข้ามาเจรจา เป็นไปในลักษณะของการเข้ามาหาเรื่อง จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น ก่อนพบว่า มีพรรคพวกของคู่กรณี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคลอง หลังวัดเสมียนนารี จะขี่รถจักรยานยนต์มายืนคุมเชิงหลายคน แล้วเมื่อเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ก็คล้ายมีการส่งสัญญาณให้กลุ่มดังกล่าวยิงปืน โดยนางสาวผึ้ง ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุ หันปากกระบอกปืนมาทางบ้านของตัวเอง หวังเอาชีวิต ซึ่งเธอยอมรับว่า ตอนนั้นมีการพูดท้าทายกลุ่มก่อเหตุจริง เพราะในใจคิดว่า เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ไม่กลัวอะไรแล้ว



ด้านนายแบงค์ นามสมมุติ ซึ่งถือเป็นคนต้นเรื่องของเหตุการณ์นี้ ที่อยู่บ้านติดกันกับนางสาวผึ้ง เขายืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปหาเรื่องคู่กรณีก่อน แต่พบเห็นว่าคู่กรณีมีการเกณฑ์คนมายังบ้านที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงค่ำ ทั้งยังมีบางส่วนที่ขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนหาตัวนางแบงค์ ด้วย ลักษณะคล้ายกับตั้งใจที่จะมีเรื่อง เพราะคู่กรณีคิดว่านายแบงค์ เป็นคนไปแจ้งตำรวจให้มาจับกุมญาติในความผิดฐานข่มขืนเด็ก 14 ปี ซึ่งตัวเองก็ได้พยายามไปชี้แจงว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพียงแต่แนะนำให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กไปแจ้งความ เพราะเห็นว่ากลุ่มนี้มีพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง ทั้งข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และพาพวกไปรุมโทรมเด็กต่างด้าว ด้วย โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีใครแจ้งความเอาผิดคนกลุ่มนี้ เพราะถูกข่มขู่ แต่รายล่าสุดตัวเองอยากให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ก็จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ จนตำรวจได้มีการมาจับกุมตัวไปดำเนินคดี



ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่มายิงปืน นายแบงค์ ยอมรับว่า เป็นเพื่อนในกลุ่ม ที่บ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับวัด ซึ่งรับรู้ปัญหามาโดยตลอด กระทั่งวันเกิดเหตุ ก็เหตุว่ามีเรื่องกัน และคู่กรณี พยายามจะบุกมาทำร้ายในบ้าน ก็จึงยิงปืน โดยมีเจตนาเพื่อระงับเหตุ ขณะที่นายแบงค์ ยอมรับว่า ส่วนตัวเห็นใจสาวที่แท้งลูก เพราะเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็เกิดความสงสัยว่า ทำไมจู่ๆ ถึงมารวมตัวกันที่บ้านหลังเกิดเหตุ และหลังพบว่าเลือดออก ทำไมไม่รีบไปโรงพยาบาล



พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจจะนำตัว ผู้ก่อเหตุ ทั้ง2 คน คือ นายปณิภาณ และนายประกายเพชร ไปฝากขังศาลที่ศาลอาญา รัชดา ในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในที่สาธารณะ และ ช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนี หลังผู้ต้องหา ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เบื้องต้น พนักงานสอบสวน จะ คัดค้านการประกันตัว



ตำรวจ ระบุว่า คืนวันเกิดเหตุ ตรวจพบหลักฐาน เป็นปลอกกระสุน ที่ระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุ ยิงปืนนับ 10 นัด สาเหตุมาจากเรื่องสะสมความแค้นที่มีปัญหาทะเลาะเบาะและกระทบกระทั่งกันเรื่อยมา คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เป็นญาติพี่น้อง อยู่ในชุมชนเดียวกัน ส่วนกรณี ที่ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนท้อง วิ่งหลบหนี จนทำให้ตกเลือดและแท้งลูก ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานว่า กรณีดังกล่าว ผู้ต้องหาจะเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรม ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมย้ำ ไม่มีมาเฟียหรือไม่มีบุคคลใดมากดดันให้ตำรวจบิดเบือนคดีได้




คุณอาจสนใจ