สาวหล่อใจเด็ด ซิ่งจยย.ล่าโจรกระชากสร้อยคอหนัก 1 บาท

แฟนสาวของผู้เสียหายที่เป็นสาวหล่อ สามารถบันทึกเหตุการณ์ ขณะกำลังตามคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ 1 บาท และพระเลี่ยมทอ โดยผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปไกลเกือบ 10 กิโลเมตร จนคลาดกันไป ผู้เสียหายจึงนำคลิปเหตุการณ์มาโพสต์ลงโซเชียล หวังให้พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์หรือคุ้นกับรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ ช่วยแจ้งเบาะแส โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา



นักข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ น.ส.วาริษกร หรือซี อายุ 20 ปี พนักงานบริษัทเอกชน ผู้เสียหาย ที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ตามคนร้าย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่า ขณะที่เธอและแฟนสาว ขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักตามปกติ แต่เมื่อมาถึงบริเวณซอยบางแวก 80 ถนนบางแวก-จรัญสนิทวงศ์ 13 เขตบางเสาธง ได้มีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นไนท์แม็ก สีขาว ขี่ประกบตีคู่มาข้างๆ เธอสังเกตเห็นว่าเป็นชาย สวมกางเกงสีดำสามส่วน และเสื้อแขนยาวสีดำ หมวกกันน็อคครึ่งใบ จากนั้นคนร้ายก็ได้ตระโกน บอกว่า "มึงขับรถอะไรว่ะ" ทำให้เธอและแฟนสาวรู้สึกตกใจ และชะลอรถเพื่อหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จังหวะนั้นคนร้ายได้เอื้อมมือมากระชากสร้อยคอทันที และคนร้ายก็กลับรถขี่ย้อนศรหนีไป



วินาทีนั้นเธอตกใจมาก และตัดสินใจที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปทันทีแบบไม่คิดชีวิต ไม่กลัวอันตราย พร้อมบีบแตรส่งสัญญาณ และตะโกนขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ขับรถผ่านไปมา เธอขี่ตามคนร้ายไปไกลเกือบ 10 กิโลเมตร จนตามไม่ทัน และจุดสุดท้ายที่ตามไปถึง คือบริเวณปากซอยวัดมะกอก ที่จะมุ่งหน้าออกไปยังถนนบรมราชชนนี จากนั้นเธอก็ไปแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเสาธง พร้อมกับนำหลักฐานที่เป็นคลิปวิดิโอไปมอบให้กับตำรวจ



น.ส.วาริษกร เล่าอีกว่า สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ เป็นของสำคัญต่อจิตใจมาก เพราะเป็นของขวัญที่พ่อและแม่มอบให้เป็นของขวัญวันเรียนจบ และก็ห้อยติดตัวตลอด ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้โชว์สร้อยคอ แต่สันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะเห็นเธอสวมสร้อยคอขณะที่เดินซื้อของอยู่ภายในตลาด และติดตามมา เมื่อสบโอกาสก็ก่อเหตุ ทั้งนี้ไม่คิดว่าคนร้ายจะย่ามใจขนาดนี้ เพราะที่เกิดเหตุเป็นจุดที่มีคนสัญจรตลอด มีแสงไฟสว่างตลอดทาง



ขณะที่ พันตำรวจเอก ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผู้กำกับการ สน.บางเสาธง ได้บอกว่า ตอนนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบเส้นทาง และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้เสียหายขี่ตามคนร้ายไป และซอยที่คนร้ายหลบหนีไปนั้นสามารถทะลุออกไปได้หลายเส้น เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เพราะมีความเชี่ยวชาญเส้นทาง ตามตรอดซอกซอยต่างๆ แต่ตำรวจยืนยันว่าจากหลักฐานและข้อมูลที่มีจะจับกุมคนร้ายได้เร็วๆนี้ และมีการายงานว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่เขตบางพลัด เคยมีการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันแบบนี้ ซึ่งคนร้ายในครั้งนั้นก็ใช้รถจักรยานยนต์แบบเดียวกันจึงเชื่อว่าอาจจะเป็นคนก่อเหตุคนเดียวกัน