เตือนภัยหนุ่มเปิดเพจรับจำนำรถเจ้าของไถ่คืนพบรถหายถึง 16 คัน

กลุ่มผู้เสียหายหลายคนนำหลักฐานเป็นใบแจ้งความให้ดำเนินคดีและบันทึกประจำวันจากหลายโรงพักในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เปิดเผยเรื่องราวกับสื่อมวลชนหวังเตือนภัยสังคม โดยผู้เสียหายบอกตรงกันว่าได้นำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดจำนำไว้กับชายคนหนึ่งที่ได้ประกาศโฆษณาให้บริการเงินด่วนรถแลกเงินในสื่อสังคมออนไลน์ แต่สุดท้ายเมื่อนำเงินไปไถ่ถอน รถกลับหาย โดยมีการบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลสารพัด จนกระทั่งผู้เสียหายบางรายมาทราบภายหลังว่ารถถูกนำไปจำนำต่อ



นายอภิชาต อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ก่อนหน้านี้ตั้งใจทำงานเก็บเงินมานานกว่า 2 ปี กว่าจะได้เงิน 150,000 บาท ไปดาวน์รถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ที่ใฝ่ฝัน แต่หลังจากผ่อนมาประมาณ 4 ปี เกิดประสบปัญหาการเงินและเห็นเพจ “เงินสดทันใจ รับจำนำจอดเชียงใหม่” จึงติดต่อนำรถไปจอดจำนำจำนวนเงิน 50,000 บาท เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา กับชายคนดังกล่าว โดยตอนวันที่นำรถไปจอดจำนำถูกหักดอกเบี้ยร้อยละ 10 งวดแรกพร้อมกับเสียค่าจอดรวมเป็นเงิน 7,500 บาท ทำให้ได้รับเงินจริง 42,500 บาท



หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน หาเงินมาได้จึงโอนเงินไปให้ชายคนดังกล่าวเต็มจำนวน 50,000 บาท พร้อมกับนัดวัดนับรถคืนอีกสองวันข้างหน้า แต่เมื่อถึงเวลาชายดังกล่าวกลับไม่มีรถมาคืนให้ ตอนแรกอ้างว่าโกดังที่เก็บรถปิดจากสถานการณ์โควิด 19 ให้รอไปก่อน หลังเดือนมกราคม 2565 ถึงจะได้คืน แต่เมื่อถึงเดือนมกราคมก็ยังถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด อ้างไม่ว่าง ติดธุระ ตอนหลังอ้างว่ารถไปอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ขอเวลาไปตามคืน แต่ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รถคืนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน อ.เมือง จ.ลำพูน แต่จนถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า



เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีรถใช้ทำงานส่งของ แถมยังต้องมาผ่อนรถกับไฟแนนซ์ฟรี ๆ มาเกือบปีเดือนละแปดพันกว่าบาทโดยที่ไม่ได้ใช้รถ ช่วงหลังอยากเอามารีไฟแนนซ์ก็ทำไม่ได้



ขณะที่นายอัศวิน อายุ 42 ปี ผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง เล่าว่า นำรถยนต์เก๋งไปจำนำไว้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565 เป็นเงิน 14,000 บาท ถูกหักดอกเบี้ยและค่าจอดเหลือรับเงิน 11,600 บาท โดยไม่ได้ทำสัญญาเป็นหนังสือ ต่อมา 25 กรกฏาคม 2565 แจ้งว่าจะนำเงินไปไถ่รถคืน ชายดังกล่าวอ้างว่าไม่ว่าง หลังจากนั้นก็พยายามติดตามเรื่อย ๆ สุดท้ายไม่ได้คืน จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ในข้อหายักยอกทรัพย์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ภายหลังชายดังกล่าวสารภาพว่านำไปขายต่อให้กับนายทุนเป็นเงิน 35,000 บาท และบอกว่าให้หาเงินไปไถ่รถคืนเอง ทำให้ทุกวันนี้ต้องผ่อนรถแบบฟรี ๆ ส่วนคดีไม่คืบหน้าเช่นกัน



นายเบญจบัญ  หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พฤติกรรมของชายคนนี้จะเปิดเพจ เปิดเว็บไซต์ให้บริการรับจำนำรถแบบจอด มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าจอดรถไว้ที่ปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีคนคอยดูแลให้อย่างดี แต่ปรากฏว่าเมื่อได้รถจำนำมาแล้ว จะนำไปจำนำหรือขายต่อในราคาที่สูงขึ้นกับนายทุนเต็นท์รถในหลายจังหวัด เมื่อเจ้าของรถมาไถ่ถอนก็จะมีข้ออ้างสารพัด ทั้ง โกดังปิดจากโควิด 19 , สรรพากรหรือตำรวจสั่งปิดโกดังเพื่อตรวจสอบ หรือ อ้างว่าอยู่ระหว่างเคลียร์เงินกับนายทุน แต่ก็ไม่เคยบอกว่านายทุนคือใครและรถอยู่กับใคร ที่ผ่านมาเคยมีผู้เสียหายตามหารถจนเจอรถจอดอยู่ริมถนน เมื่อเรียกช่างไปเปิดประตู กลับโดนเจ้าของเต็นท์แจ้งความจับในข้อหาลักทรัพย์จำนำ ทั้งที่เป็นรถของตัวเองและได้แสดงเจตนาพร้อมไถ่ถอน





ความเสียหายที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้เสียหายได้เริ่มพูดคุยและรวมตัวกันจนถึงขณะนี้มีทั้งหมด 16 ราย กระจายแจ้งความตามท้องที่ต่าง ๆ ในข้อหาฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และ ถึงวันนี้ทุกคดียังไม่มีการออกหมายจับ ทำให้ผู้เสียหายเกือบยี่สิบคนรวมตัวเข้าร้องเรียนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตำรวจเร่งรัดการดำเนินคดี ก่อนจะเปิดเผยเรื่องกับสื่อมวลชนเพื่อเตือนภัยสังคม หวังไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่อชายคนนี้อีก