สังคม

ให้ออกจากราชการ พ.ต.ท. ขายข้อมูลคนไทยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย nutda_t

29 ต.ค. 2565

1.6K views

จากกรณีที่ตำรวจไซเบอร์ บุกจับ 2 เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท. และเจ้าหน้าที่กระทรวงแห่งหนึ่ง นำข้อมูลคนไทยกว่า 1,000 คน ไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง โดยตรวจพบมีเงินโอนเข้าบัญชีวันละ 2 หมื่น หรือเดือนละ 600,000 บาท โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น



ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายตำรวจยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง สวป.สภ.อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยลงนามในคำสั่ง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ



มีรายงานเพิ่มเติมว่า จากพฤติการณ์ ของ พ.ต.ท.คนดังกล่าว ได้เข้ารหัสเฉพาะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าไปกดดูฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้เสียหาย (ทร.14) นับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งความถี่ในการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จนเป็นเหตุแห่งการสงสัยนั้น



ซึ่งแหล่งข่าวระดับสูงให้ข้อมูลว่า พ.ต.ท. มีการกล่าวอ้างว่า การให้ข้อมูลกับเพื่อนหญิง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวง เป็นการนำไปใช้เพื่องานวิจัยในระดับปริญญาโทเท่านั้น ไม่ใช่การนำไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยอ้างว่าเริ่มพฤติกรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีผลตอบแทนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเดือนละกว่า 6 แสนบาทดังกล่าว



ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่า พื้นฐานครอบครัวของ พ.ต.ท.นั้น ครอบครัวมีฐานะดี ปัจจุบันได้รับเงินกงสี เดือนละ 50,000 บาท และยังเพิ่มให้อีก 20,000 บาท ยังไม่รวมเงินเดือนตำรวจ และรายได้อื่น ๆ ซึ่ง พ.ต.ท.จะมีเงินใช้เดือนละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท



อย่างไรก็ตามคาดว่า พ.ต.ท.จะถูกตั้งข้อหาร่วมกันฉ่อโกง และ 157 ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และอาจถูกตั้งข้อหาอื่นร่วมด้วย เนื่องจากยังมีหมายจับอีก 2 หมายที่กรุงเทพมหานคร

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ