สังคม

‘เหยื่อ 50 ราย’ ร้องกองปราบฯ วอนล่าตัวเต็นท์รถหลอกซื้อดาวน์รถ ใช้ชีวิตหรู เชิดเงินหนีลอยนวล

โดย JitrarutP

28 ต.ค. 2565

653 views

เหยื่อถูกเต็นท์รถหลอกซื้อดาวน์รถแล้วเชิดรถหนี จนเกือบกระโดดลานจอดรถ สตช. พร้อมผู้เสียหายราย ร้องกองปราบฯ วอนเร่งล่าตัวคนก่อเหตุ ตามจับกุมตัว ใช้ชีวิตหรูยังเชิดเงินชิ่งหนีลอยนวล



จากเหตุการณ์ ที่คุณตั้ม ตัดสินใจจักระโดดลานจอดรถ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพราะเครียด หลังถูกเต็นท์รถทีทีเอ็น คาร์พรีเมียม ของ นายธีรภัทร หลังแดง หรือ นายธี ซึ่งอยู่ที่ย่านรามคำแหง หลอกซื้อรถปาเจโร โดยจ่ายเงินดาวน์มา 1.3 แสนบาท แต่ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อสัญญาผู้เช่าซื้อ และไม่ผ่อนรถต่อให้กับไฟแนนซ์ตามที่ตกลง จนทำให้ทุกวันนี้ยังต้องผ่อนรถกับไฟแนนซ์ หรือที่เรียกว่าผ่อนลม โดยที่รถถูกนำไปขายให้กับเต็นท์รถต่างๆ อีกหลายเต็นท์



โดยเหยื่อที่ถูกเต็นท์รถของนายธี ได้มารวมตัวแฉพฤติกรรมในรายการโหนกระแส โดยเหยื่อทุกรายจะโดนหลอกในรูปแบบเดียวกัน คือนายธีจะจ่ายเพียงเงินดาวน์ ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อสัญญาผู้เช่าซื้อ ไม่ผ่อนต่อกับไฟแนนซ์ตามข้อตกลงแล้วเอารถไปขาย ส่วนนายธีตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนี เนื่องจากถูกศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้เสียหายเกือบ 60 คน ได้มาที่กองปราบปราม เพื่อขอให้พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางช่วยเหลือในการติดตามตัวนายธี นอกจากนี้ผู้เสียหายยังได้นำป้ายเต็นท์รถของนายธี และ นำกระดาษเขียนข้อความว่า เช่นเราคือผู้เสียหาย ช่วยเราด้วย มาแสดงเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม



โดยภรรยาของคุณตั้มบอกว่า กรณีของเธอแม้ว่าศาลจังหวัดสมุทรปราการ จะออกหมายจับนายธีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังตามจับตัวนายธีไม่ได้ ทำให้ทุกวันนี้ครอบครัวยังต้องผ่อนค่างวดให้ไฟแนนซ์ เดือนละ 19,700 บาท ซึ่งเหมือนเป็นการผ่อนลม เพราะรถปาเจโรของเธอ ตอนนี้ไปอยู่กับ นายเอ็ม ซึ่งนายเอ็มซื้อรถของเธอมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครราชสีมา



เนื่องจากนายธีหลังได้รถของตนไปแล้วก็ไปขายต่อ คนซื้อก็ได้นำเอาไปขายอีกหลายทอด โดยนายเอ็มยื่นคำขาดว่า หากตนอยากได้รถคืนต้องจ่ายเงินมา 8 แสน 9 หมื่นบาท เพื่อซื้อรถต่อจากนายเอ็ม ซึ่งตนไม่มี จึงอยากให้ตำรวจกองปราบปรามเข้ามาช่วยเหลือ จับกุมนายธีให้ได้โดยเร็ว ที่สำคัญกลัวว่าหากนายธียังไม่ถูกจับก็อาจจะไปหลอกคนอื่นอีก



ทนายรณรงค์ เปิดเผยว่า การหลอกขายดาวน์รถจะต้องทำเป็นขบวนการ ส่วนใครอยู่เบื้องหลังนั้นยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่จากจำนวนรถที่ผู้เสียหายไปขายดาวน์ กว่า 50 คัน ความเสียหาย ประมาณ 36 ล้านบาท จะต้องเป็นขบวนการใหญ่อย่างแน่นอน จึงต้องการให้ตำรวจกองปราบรับทำคดี เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก



ที่ผ่านมาผู้เสียหายหลายคน ได้ตระเวนไปแจ้งความกับทางตำรวจท้องที่ แต่มีเพียง สภ.เมืองสมุทรปราการ ที่รับแจ้งความและดำเนินการออกหมายจับเจ้าของเต้นท์รถดังกล่าว ทั้งนี้ขอฝากเตือนผู้ที่จะขายดาวน์รถ จะต้องทำสัญญาซื้อขายรถและเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้

คุณอาจสนใจ