รวบหนุ่มหึงโหด กระหน่ำแทงแฟนสาวดับ อ้างแค้นไปมีชายใหม่

พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิพัฒน์ จ่างแก้ว รอง ผกก.สืบสวน , พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สืบสวน พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านบึง และกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งมีผู้ถูกแทงเสียชีวิต บริเวณสระน้ำ พื้นที่บ้านห้วยมะไฟ ม .4 ต.บ้านบึง จ.ชลบุรี



ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.ศศิอำไพ อายุ 26 ปี สภาพนอนหงาย มีมีดทำครัวปักคาอยู่บริเวณท้อง อาสากู้ภัยช่วยพลิกร่างเพื่อตรวจชันสูตร พบด้านหลังมีรอยถูกของมีคมแทง จำนวน 4 แผล ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำคาดน้ำเงิน จอดอยู่



จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) เพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยผู้ตายนั่งซ้อนท้ายมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา ก่อนจอดรถลงมาแทงเพื่อนตนจนล้มลง ส่วนตนเองก็วิ่งหนี แต่ผู้ก่อเหตุยังแทงซ้ำที่ด้านหน้าบริเวณท้องอีก 1 ครั้ง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป



สอบถาม นายสมาน อายุ 53 ปี นายจ้างของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายได้เล่าให้เพื่อนๆ ที่ทำงานด้วยกันว่า มีปัญหากับอดีตแฟนเก่า เพราะแฟนติดการพนัน มีหนี้มีสินจนต้องตามใช้หนี้ให้ไม่ไหว จึงได้หนีออกมาเช่าห้องอยู่ตามลำพังได้มาประมาณ 1 เดือน จากนั้นคนร้ายก็มักจะวนเวียนมาหา แต่ผู้ตายไม่ยอมที่จะกลับไปคืนดีด้วย จึงอาจเกิดเป็นปมแค้นที่คนร้ายคิดว่าคนตายมีผู้ชายคนใหม่ จึงมาก่อเหตุขึ้น



ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บ้านบึง ได้กระจายกำลังหาเบาะแสของคนร้าย จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเบล อายุ 32 ปี เป็นพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่ง และสามารถติดตามจับกุมได้ที่หน้า สภ.คลองกิ่ว



สอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองมีความคับแค้นใจ ที่ผู้ตายเลิกลากับตนไปไม่นาน และมีผู้ชายคนใหม่ โดยบอกเหตุผลว่าไม่อยากร่วมใช้หนี้ให้กับตนเอง ทั้งแค้นและหึงหวง คิดจะมาลงมือก่อเหตุฆ่าดับแค้น โดยก่อนลงมือได้ดื่มเบียร์ 3 ขวด กับเพื่อน ก่อนที่ตนจะไปหยิบเอามีดทำครัวติดตัวมาด้วย แล้วขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอแฟนสาว เป็นจังหวะที่แฟนสาวซ้อนท้ายรถเพื่อนมา แฟนสาวเห็นตนขี่ตามมาจึงจอดรถ จากนั้นตนเองจึงลงจากรถ และวิ่งไปใช้มีดแทงเข้าที่ด้านหลัง 4 ครั้ง จนแฟนสาวล้มลง และแทงซ้ำที่หน้าท้องอีก 1 ครั้ง ก่อนขี่รถหลบหนีไป และถูกติดตามจับกุม



เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป