คุมนทท.จีนกว่า 200 ราย มั่วยาผับย่านยานนาวา แฉบริการครบวงจร ยาเสพติด-บ่อน

คดีที่ตำรวจบุกจับนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 200 คน มั่วสุมเสพยาเสพติดในผับย่านยานนาวา ซึ่งวันนี้ มีการเปิดเผยคลิปวงจรปิดว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ มีการเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วย และเพิ่งเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปก่อนที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้นเพียง 1 วัน และเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและพัทยา โดยเป็นของนายทุนชาวจีน ที่มีรายได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย



นักเที่ยวชาวจีน ซึ่งถูกนำตัวไปตรวจหาสารเสพติด โดยโรงพยาบาลได้ส่งผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงอย่างเป็นทางการ กลับมาแล้ว มีผู้ที่เสพยาเสพติด ประเภทเคตามีน 78 คน เป็นนักเที่ยวชาวจีน 77 คน และพนักงานคนไทย 1 คน มีผู้ต้องหารับสารภาพ 48 คน อีก 30 คน ปฏิเสธ จึงได้ส่งตัว 48 คนส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนอีก 30 คน ที่ปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ ส่วนนักเที่ยวที่ตรวจไม่พบ จะคุมตัวไปไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู โดยทาง ตม. จะต้องเร่งตรวจสอบประวัติการเดินทางและประวัติอาชญากรรม หากพบว่าคนใดอยู่เกินกว่าที่กฎหมาย กำหนดหรือมีคดีติดตัว จะทำประวัติและผลักดันกลับประเทศ



ทำให้วันนี้ที่ สน.ยานนาวา ทั้งทนายความและชาวจีนจำนวนมา เดินทางมาหาทางช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้

ระหว่างควบคุมตัวผุ้ต้องหาไปส่งศาล ได้มีกลุ่มชาวจีนขับรถหรูมาจอดข้าง สน.ยานนาวาหลายคัน และได้พากันเดินเข้ามาใน สน.รวมทั้งยืนอยู่โดยรอบ สน.จำนวนมาก และเมื่อเห็นสื่อมวลชนยืนทำข่าวและถ่ายภาพก็ได้ตรงเข้ามาคุกคามด่าทอเป็นภาษาไทย อย่างไม่เกรงกลัวใคร เมื่อเข้าไปสอบถามต่างตอบว่าพูดไทยไม่ได้



ขณะที่สถานบันเทิงย่านยานนาวา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ให้ข้อมูลว่า จากคลิปที่ได้มาพบ เปิดเป็นบ่อนการพนันไปพร้อมกับสถานบันเทิงและอัพยา ครบวงจร แต่บ่อนเพิ่งเคลื่อนย้ายก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับเพียงวันเดียว



โดยเรียกว่า "ผับศูนย์เหรียญ" มีอยู่ในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง, พระราม 2 และพัทยา ขบวนการเหล่านี้มีนักการเมืองใหญ่ให้ความคุ้มครองอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นคนจีน ทุนหนา จ่ายไม่อั้น หากไม่ตั้ง "ศูนย์ปรามปรามอาชญากรรมจีน" จะเกิดปัญหาตามมามากมายเพราะเมืองไทยคือเป้าหมายหลัก เพราะความอ่อนแอของระบบราชการ คอรัปชั่น



ศูนย์กลางของอาชญากรรมจีนที่แฝงตัวเข้ามาทุกรูปแบบ และยังเปิดเผยถึงชื่อเจ้าของบ่อน และสถานบันเทิง เป็นชาวจีนแต่มีภรรยาเป็นอดีตตำรวจ ญาติของอดีตนายพลตำรวจ และยังได้จ่ายเงิน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง



ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ควบคุมตัว ใครที่ตรวจพบว่ามีสารเสพติด จะถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทยอย่างถาวร ส่วนใครที่ไม่มีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จะถูกผลักดันกลับประเทศทั้งหมด



ส่วนรถยนต์หรูที่เจอ ตรวจพบว่ามีทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และรถยนต์เช่าที่เช่ามารับส่งนักท่องเที่ยวจีน พบเอกสารสัญญาเป็นภาษาจีนทั้งสิ้น ซึ่งตำรวจจะต้องนำไปขยายผลเพื่อหาผู้ครอบครองที่แท้จริง ส่วนตู้เซฟตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดได้