สังคม

บ่อนใหญ่ย่านเลียบด่วน ปล้นเซียนพนัน จับมัด ถุงดำคลุมหัว อุ้มซ้อม รีดเงิน 5 ล้าน

โดย nutda_t

27 ต.ค. 2565

218 views

ช่วงสายที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียจำนวน 5 ราย เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด หลังกลุ่มผู้เสียหายระบุว่า ถูกบ่อนดัง ย่านถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม อุ้มรีดเงิน รวมแล้วกว่า 5 ล้านบาท โดยอ้างว่ากลุ่มผู้เสียหายโกงการเล่นเสือมังกร ทำให้บ่อนเสียเงิน



ตัวแทนผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองและกลุ่มเพื่อน ได้เข้าไปเล่นการพนันที่บ่อนดังกล่าว ในช่วงเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งก่อนหน้าก็ได้มีการเดินทางไปเล่นมาแล้ว 2 วัน รวมวันที่ 19 เป็นวันที่ 3 โดยเมื่อเล่นไปได้สักพัก ถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตัวแทนของบ่อนได้เรียกกลุ่มตนเองขึ้นไปบริเวณชั้นสองของอาคาร โดยกล่าวหาว่ากลุ่มพวกตน โกงการเล่นเสือมังกร จนทำให้บ่อนเสียเงินเป็นจำนวนมาก



ขณะนั้นประมาณ 3-4 ทุ่ม กลุ่มตนเองได้แอบเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวขึ้นไปด้วย จึงได้มีการโทรแจ้งตำรวจผ่านสายด่วน 191 ก่อนที่จะมีตำรวจติดต่อกลับมาเพื่อสอบถามสถานที่ เมื่อตนเองแจ้งพิกัดไป และตำรวจแจ้งว่ากำลังเดินทางมาถึงตามจุดที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ ทางตำรวจปลายสายได้บอกว่าสถานที่นี้เป็นบ่อนการพนันไม่ใช่หรือ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้ยืนยันว่าใช่ และถูกคุมตัวอยู่ที่ชั้นสองของอาคารดังกล่าว ปลายสายก็ตัดไป และไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย



ในเวลาต่อมามีคนของทางบ่อนเดินขึ้นมา และแจ้งว่ามีคนในกลุ่มผู้เสียหายติดต่อโทรแจ้งตำรวจ จึงได้มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มตนเองขึ้นรถตู้ โดยอ้างว่าจะพาไปที่สน.แต่ปรากฏว่ามีการพามาจอดพักรถไว้ที่ย่านถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เป็นเวลานานราวชั่วโมงครึ่ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่า เป็นช่วงเวลาที่มีทางตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่บ่อนการพนันดังกล่าว เมื่อตำรวจออกจากบ่อนการพนันไป กลุ่มการ์ดที่คุมตัวขึ้นรถตู้มาก็ได้พาตัวกลับมาที่บ่อนการพนันอีกครั้ง



ก่อนที่ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน จะเริ่มมีการพาคนในกลุ่มผู้เสียหายออกไปทีละคน ซึ่งทุกคนจะโดนทำร้ายร่างกาย ทั้งการเอาถุงดำคลุมหัว เอามือปิดจมูกและปาก และมีการซ้อมทำร้ายร่างกายเพื่อรีดเอาเงิน โดยกลุ่มคนที่ทำร้ายอ้างว่าเป็นทหาร ซึ่งตลอดการซ้อมทำร้ายร่างกายจะถามตลอดว่า มีเงินเท่าไหร่ให้เอามาให้หมด ซึ่งกลุ่มคนที่รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทุกคนมีมากกว่า 10 คน จนสุดท้ายทนไม่ไหว จึงยอมบอกรหัสโทรศัพท์ เพื่อให้กลุ่มที่รุมทำร้ายกดโอนเงินออกจากบัญชีไป โดยรวมแล้วเป็นเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาท



เมื่อได้เงินไปตามที่ต้องการแล้ว ก็พาตัวกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดขึ้นรถตู้ และนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า พร้อมข่มขู่ว่าหากมีการแจ้งความดำเนินคดี จะตามไปฆ่าทิ้ง พร้อมกับมีการถ่ายบัตรประชาชนของกลุ่มผู้เสียหายไว้ทุกคน เพื่อแสดงให้เห็นว่า รู้ข้อมูลที่อยู่ของผู้เสียหายทุกคน



ต่อมาประมาณช่วงเดือนกันยายน ได้มีหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจกลับให้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์และมีการประสานไปที่ตัวแทนของบ่อนการพนัน และมีการส่งบุคคลเข้ามาทำบันทึกต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า จะคืนเงินตามจำนวนที่มีการเอาออกไปจากบัญชีของผู้เสียหาย แต่สุดท้ายมีการคืนเงินมาเพียงจำนวน 500,000 บาท จากจำนวนเงิน ทั้งหมดกว่า 2 ล้านบาท ของผู้เสียหายรายนี้



ในวันนี้ผู้เสียหายทั้งหมดจึงตัดสินใจรวมตัวกันเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด เพื่อให้ติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืน เพราะเงินจำนวนดังกล่าวที่ผู้เสียหายถูกบังคับให้โอนไป มีเงินส่วนตัวของกลุ่มผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อน



นายเอกภพ กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับทางผู้เสียหายทำให้ทราบว่า บ่อนการพนันดังกล่าวถือเป็นบ่อนใหญ่ เพราะทราบว่ามีหลากหลายการเล่นการพนัน ทั้งเสือมังกร , บาคารา , กำถั่ว หลากหลายวง อยู่ในพื้นที่อาคารเดียวกัน และมีคนเข้าไปเล่นจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งการที่ตำรวจทราบว่าเป็นสถานที่เล่นการพนัน แต่กลับไม่เข้าไปดำเนินการใดๆ ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ



รวมถึงเมื่อผู้เสียหายมีการเข้าไปแจ้งความ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าต้องเข้าข่ายการปล้นทรัพย์ เพราะมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 10 คน แต่ตำรวจกลับให้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยบอกกับผู้เสียหายว่า การที่เสียเงินไปถือว่าเป็นการเสียทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นการจงใจแจ้งข้อหาที่ไม่ตรงกับการกระทำความผิด เพราะการปล้นทรัพย์ถือเป็นความผิดอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ แต่การทำให้เสียทรัพย์สามารถจบลงได้ด้วยการเจรจาคืนเงิน รวมถึงพฤติกรรมในการทำร้ายร่างกายที่ใช้ถุงดำคลุมหัว ถือว่าเข้าข่ายพยายามฆ่า แต่กลับไม่มีการพูดถึงในประเด็นนี้



นายเอกภพ กล่าวว่า นอกจากเงินที่บังคับโอนแล้ว ยังมีการนำทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือและสร้อยทองต่างๆ ไป และไม่มีการคืน และไม่มีการพูดถึงในการลงบันทึกประจำวันด้วย หลังจากได้รับการประสานในวันนี้ จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทั้งหมดและประสานขอความช่วยเหลือไปที่ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการเจ้าของพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ