2 ผัวเมีย ขนยาบ้า 7 แสนเม็ด ซุกถุงขี้ไก่ เจอตร.สกัดจับ หยิบถุงยาส่งให้เฉย

ที่ สภ.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 , นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี , พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ก.จว.สุราษฎร์ธานี , นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 8 ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดของกลาง ยาบ้า 701,400 เม็ด ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายพยุงยุทธ หรือ โจ อายุ 33 ปี และ น.ส.กชพรรณ หรือ นก อายุ 33 ปี 2 สามีภรรยา ชาว อ.ลานสะกา จ.นครศรีธรรมราช



ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ สภ.พุนพิน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมและสิ่งผิดกฎหมาย ช่วงก่อนประชุมเอเปก บนถนนสาย41 ขาล่องใต้ พื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่เรียกตรวจยานพาหนะที่ใช้เส้นทาง ปรากฎว่าได้มีรถกระบะรั้วบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ขับมาด้วยความเร็ว แต่เมื่อเห็นด่านได้ขับรถส่ายไปมาคล้ายรถมีน้ำหนัก จึงได้เรียกตรวจสอบ พบว่ามีนายพยุงยุทธ เป็นคนขับ และ น.ส.กชพรรณ นั่งข้าง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ น.ส.กชพรรณ ได้รีบส่งยาบ้าซึ่งบรรจุอยู่ในถุงซิปล็อคสีฟ้า 2 ถุง จำนวน 400 เม็ด ให้เจ้าหน้าที่ทันที และยังนำเจ้าหน้าที่ตรวจยึดอีก 5 ถุง จำนวน 1,400 เม็ด ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในช่องเก็บของคอนโทรลหน้ารถ โดยอ้างว่า ซื้อมาไว้สำหรับเสพ เพื่อขับรถขนส่งสินค้า



แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าตามที่ทั้ง 2 กล่าวอ้าง ซึ่งพบว่าเป็นมูลไก่ ที่บรรทุกเพียงครึ่งรั้วรถกระบะ ไม่น่าจะมีน้ำหนักจนทำให้หัวรถส่าย จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบกระสอบบรรจุอาหารปลาสีขาวชมพู จำนวน 4 ถุง ถูกซุกซ่อนกองรวมกับถุงบรรจุมูลไก่ ภายในมียาบ้าห่อด้วยกระดาษฟอยล์ซีลทับด้วยถุงพลาสติกอย่างดี รวมทั้งสิ้น 70 ถุง จำนวน 7 แสนเม็ด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย



พล.ต.ต.ศรัญญู กล่าวว่า หลังตรวจยึดยาบ้า ได้ประสาน ศูนย์ พฐ.8 เข้าตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และชุดขยายผลการจับกุมยาเสพติด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าสอบสวนขยายผล ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปรับยาเสพติดทั้งหมดมาจาก จ.ราชบุรี และนำไปส่งที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยขณะนี้ทราบเครือข่ายทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป