กรมสมเด็จพระเทพฯ ถวายผ้าพระกฐินและทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.อุดรธานี

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดอุดรธานี ดังนี้


วันนี้ เวลา 9 นาฬิกา 33 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดธาตุสว่างโนนยาง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทย ประจำปี 2565 ซึ่งสภากาชาดไทย ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาจัดขึ้น เพื่อนำปัจจัยไปบูรณะ ปรับปรุงสร้างกุฏิหลังใหม่ และหลังคาศาลาการเปรียญ เมรุเผาศพ โรงครัว ขุดบ่อน้ำ และสร้างกำแพงล้อมรอบวัด

วัดธาตุสว่างโนนยาง เดิมเป็นพื้นที่รกร้าง เต็มไปด้วยต้นยางนาจำนวนมาก ค้นพบซากสิมหรือโบสถ์เก่า พระธาตุโบราณ และบ่อน้ำโบราณ จึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เมื่อปี 2465 พระครูหนู อดีตเจ้าอาวาสวัดบัวบาน บ้านกุดสระ ทำการบุกเบิกพัฒนาพื้นที่เป็นหมู่บ้านโนนยางและวัดโดยให้ชื่อว่า"วัดฮุ่ง" ที่มีความหมายว่า สว่าง

มีหลวงปู่ทอง สุวณณสโร หรือพระครูสุวรรณประภาต เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาในปี 2470 ได้สร้างกุฏิเพิ่มเติม และเรียกชื่อวัดว่า "วัดธาตุสว่างโนนยาง" ตามชื่อหมู่บ้าน และตามชื่อพระธาตุโบราณตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันมี พระครูสถิตวโรภาส (สุวิทย์ ฐิตธมฺโม) เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุจำพรรษา 5 รูป

เวลา 12 นาฬิกา 43 นาที เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้า โครงการตามพระราชดำริ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไปรษณีย์ไทย (บ้านห้วยหมากหล่ำ) อำเภอโนนสะอาด โอกาสนี้ ทรงเปิดอาคารเรียนพระราชทาน ที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดสร้างขึ้น พร้อมอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ได้ศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน โรงเรียนแห่งนี้เปิดทำการสอนตั้งแต่ปี 2520

ปัจจุบันมีนักเรียนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 63 คน โดยผลคะแนน NT ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และคะแนน O-NET ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่โดดเด่นคือ วิชาภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ สูงกว่าระดับสังกัดและระดับประเทศ ที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม คือ วิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ แนวทางคือ จัดสอนเสริมหลังเลิกเรียน ฝึกทำข้อสอบเก่า และหาความรู้เพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งพัฒนาครูเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา

ด้านการเสริมสร้างศักยภาพงานอาชีพ มีกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ ได้แก่ ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลานิลในบ่อดิน ทำให้โรงเรียนมีผลผลิตเนื้อสัตว์เพียงพอ ส่วนผักและผลไม้ ต้องทำแผนการปลูกแบบผสมผสาน และปลูกผักหมุนเวียนตามฤดูกาล ให้เพียงพอกับความต้องการ

โอกาสนี้ ทอดพระเนตร กิจกรรม "ไปรษณีย์..เพิ่มสุข" แสดงผลงานที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ช่วยส่งเสริม เพื่อสร้างสังคมแห่งการช่วยเหลือ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ให้คนมีรายได้ พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ในการนี้ ทรงลงพระนามาภิไธยบนพระฉายาลักษณ์ ภาพตราไปรษณียากรที่ระลึก 65 พรรษาด้วย

ด้านการขยายผลการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน พบว่า ครู ตชด. ช่วยแนะนำการทำเกษตร และปศุสัตว์อย่างถูกวิธีแก่ชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้จัดทำบัญชีครัวเรือนด้วย และจัดทำฐานการเรียนรู้ การปลูกผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ปีก เลี้ยงปลา เลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์ และฐานทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ

ปัจจุบัน กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 มีโรงเรียน ตชด. ในความรับผิดชอบ อยู่ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ 5 แห่ง จังหวัดอุดรธานี 5 แห่ง และจังหวัดเลย 8 แห่ง ปีการศึกษา 2564 พบว่าโรงเรียน ตชด. ทั้ง 18 แห่ง สามารถดำเนินโครงการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน วิชาภาษาไทยได้ดี นักเรียน ฟัง พูด อ่าน และเขียนได้ตามเกณฑ์ ในอนาคตจะพัฒนาครูให้มีทักษะการสอนเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน มีทักษะวิชาภาษาไทยที่ดีขึ้น

โอกาสนี้ พระราชทานประกาศเกียรติคุณ แก่ผู้แทนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2565 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนบ้านคำข่า จังหวัดสกลนคร รองชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านโพนฮาด จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนตามพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2556 ในพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด และภาคใต้ 4 จังหวัด รวม 114 กลุ่ม

เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ผลิตอาหารในครัวเรือนให้เพียงพอต่อการบริโภค รวมทั้งพัฒนา และยกระดับกลุ่มส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบให้กลุ่มอื่นๆ ต่อไป